วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2563

[::REVIEW::] MUGLER – ANGEL EAU CROISIÈRE



[::REVIEW::]
MUGLER – ANGEL EAU CROISIÈRE
Perfumer : Sidonie Lancesseur
Launched Year : 2019


Fragrance Notes
Mango, Grapefruit, Blackcurrant Sorbet, Patchouli, Praliné

_____________________________________


               ANGEL EAU CROISIÈRE เป็นน้ำหอมรุ่น Limited Edition ที่ถูกส่งออกมาเพื่อต้อนรับฤดูร้อนปี 2019 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากกลิ่นอายความสุขของการล่องเรือในทะเล และรสชาติเปรี้ยวอมหวานของ Cocktail ที่มอบความสดชื่น ซาบซ่า และมีชีวิตชีวา ซึ่งสำหรับตัวผมเอง บอกก่อนเลยว่านี่คือน้ำหอมกลิ่นโปรดอันดับ 1 ในตระกูล ANGEL เพราะเป็นรุ่นเดียวที่กลิ่นไม่หนัก และจมูกผมสามารถรับได้โดยไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด

               จะเห็นได้ว่า Concept ของ ANGEL EAU CROISIÈRE  นั้นแตกต่างจากรุ่น original แบบคนละขั้วกันเลยทีเดียวนะครับ flanker รุ่นนี้เปรียบได้กับลูกไม้ไกลต้น เพราะให้กลิ่นแนว Floral – Fruity ที่น่ารักสดใสมาก มันทั้งอ่อนเยาว์ ทั้งสดชื่น ชุ่มฉ่ำ และยังหอมหวาน ราวกับดื่มน้ำผลไม้รสเปรี้ยวอมหวานแช่เย็นจัดๆบนชายหาด Miami หรือเกาะ Hawaii เรียกได้ว่ากลิ่นมีความ Tropical แบบ 100% เลยก็ว่าได้ สไตล์กลิ่นจะมาแนวเดียวกับน้ำหอมแบรนด์ ESCADA ที่หอมน่ารักและเข้าถึงง่ายกับทุกคน หากแต่มาในคุณภาพระดับ Thierry Mugler ใครชื่นชอบน้ำหอมแบรนด์นี้ผมว่าไม่ควรพลาด



น้ำหอมแบรนด์ ESCADA
SORBETTO ROSSO, ROCKIN' RIO, MIAMI BLOSSOM, CHERRY IN THE AIR, MOON SPARKLE

               Perfumer ผู้ปรุงแต่งน้ำหอมกลิ่นนี้ขึ้นมาคือคุณ Sidonie Lancesseur ซึ่งเธอได้เลือกใช้วัตถุดิบที่เรียบง่ายเพียงไม่กี่อย่างมารังสรรค์เป็น ANGEL EAU CROISIÈRE ซึ่งส่วนผสมดังกล่าวนั้นประกอบด้วย

  1. มะม่วงสุก
  2. ผล Grapefruit
  3. ไอศกรีม Blackcurrant Sorbet
  4. Patchouli หรือใบพิมเสน และ
  5. ขนม Praline

               หากวิเคราะห์เบื้องต้นจากโน้ตต่างๆที่ปรากฏ ก็คงต้องบอกเลยว่าน่ากินเกือบทุกอย่างเลยครับ 555 ที่โดดเด่นสุดเห็นจะเป็นมะม่วงสุกที่เป็นตัวการหลักของกลิ่นอายโทน Tropical Fruity และในขณะเดียวกัน Perfumer ก็พยายามที่จะนำเอกลักษณ์ความเป็น ANGEL โยงเข้าหาด้วยโน้ตของ Patchouli ที่เป็น Signature ของไลน์ ผนวกกับโน้ตของ Praline ที่ทำหน้าที่แทน Chocolate และ Caramel จากตัว Original

               กลิ่น Top Notes นั้นมาแบบ Juicy มากกกก มันช่างสดชื่น หวานฉ่ำ อมเปรี้ยว แล้วก็น่ากัดกินแบบสุดๆ ผมเชื่อว่าสาวๆได้กลิ่นแล้วต้องกรี๊ดกันอย่างแน่นอนครับ เพราะเปิดด้วยกลิ่นหอมของมะม่วงเป็นอย่างแรก เป็นมะม่วงที่สุกงอมจัดๆ สุกในชนิดที่ว่าหากไม่รีบกัดกินมันซะตั้งแต่ตอนนี้ พรุ่งนี้ก็คงต้องอดกินเพราะเน่าเสียก่อน และเมื่อกัดกินเข้าไปแล้ว เนื้อมะม่วงหวานๆฉ่ำน้ำระเบิดทะลักท่วมปาก (ทางนี้เขียนรีวิวไปก็น้ำลายไหลไป) บอกเลยว่านี่คือกลิ่นแห่งความสุขชัดๆครับ ซึ่ง ณ จุดนี้ฟีลลิ่งของ ESCADA นั้นขนมาเต็มร้อย ถ้าไม่บอกว่านี่คือน้ำหอมจากไลน์ ANGEL บ้าน MUGLER ผมก็คงไม่มีทางเชื่อ

               ทิ้งไว้ไม่นานก็เริ่มเข้าช่วงกลาง ความ Juicy ฉ่ำน้ำของมะม่วงที่สุกงอมจัดๆนั้นลดระดับลงเล็กน้อย ผนวกเข้ากับกลิ่นเปรี้ยวจี๊ดคมๆของผล Grapefruit และไอศครีม Blackcurrant Sorbet ที่เปรี้ยวซ่าจนตาหยี คือมันหอมน่ากินจนไม่รู้จะบรรยายว่ายังไงจึงจะเห็นภาพดี 555 ลองจินตนาการถึง Cocktail มะม่วงดูก็ได้ครับ หรือจะเป็นไอศกรีมมะม่วงเชอร์เบทก็ได้ เป็นกลิ่นที่ถูกสร้างมาเพื่อ Mango Lover โดยเฉพาะ เนื้อกลิ่นดีและเป็นธรรมชาติมาก ต่างจากกลิ่นมะม่วงที่พบได้ทั่วไปแน่นอนเพราะตัวนี้ไม่หนักจมูก และไม่เวียนหัวแต่อย่างใด

               หากใครที่เป็นสาวกและคาดหวังว่าจะได้พบกลิ่นอายของ ANGEL รุ่นแม่แบบในช่วง Base Notes ผมต้องแสดงความเสียใจด้วยครับ เพราะแม้ทาง Perfumer จะใส่โน้ต Patchouli กับ Praline เข้ามาด้วยก็ตาม แต่มันช่างอ่อนบางมากจนผมแทบจะไม่สามารถรับรู้ได้ถึง DNA ของรุ่น original ได้เลย ในทางตรงกันข้าม ช่วงเบสยังคงให้กลิ่นมะม่วงสุกที่ยังคงความ Juicy, Juicy, และก็ Juicy อย่างไม่มีตกครับ

               กลิ่นมาแนว Summer Scent หอมหวานสดชื่นขนาดนี้ แน่นอนว่า ANGEL EAU CROISIÈRE ต้องมาในเบส Eau de Toilette อย่างไม่ต้องสงสัย ด้านความทนและการกระจายกลิ่นก็เป็นไปตามน้ำหอม Summer Scent ทั่วไป คือทำได้ดีในระดับกลางๆ สำหรับตัวผมเองฉีดเทสลงบนผิวก็ติดทนประมาณ 4-5 ชั่วโมงได้อยู่นะครับ ส่วนการกระจายกลิ่นนั้น แรกๆทำได้ดีทีเดียว กลิ่นหอม น่ารัก โชยออกมาเตะจมูกได้อย่างไม่ขาดสาย และจะเริ่มลดระยะ sillage ลงกลายเป็นกลิ่นจางๆติดผิวในตอนท้าย อาจจะต้องอาศัยเหงื่อ หรือ Body Heat ช่วยจากการขยับเขยื้อนร่างกายบ้าง หรืออาจจะต้องมีเติมระหว่างวันซักหน่อยเพื่อเติมความสดชื่น เติมชีวิตชีวา และเติมความน่ากินให้แก่ตัวเอง

               เหมาะสำหรับใส่ในโอกาสลำลองทั่วไปในวันสบายๆ ใส่เที่ยววันหยุดพักร้อน ทำกิจกรรมกลางแจ้ง ได้หมดเลยครับ หรือถ้าหากจะเอาให้ตรง Concept จริงๆก็คงต้องใส่ไปชายทะเล ยิ่งถ้าหากไปเที่ยวเกาะหรือชายหาดที่มีหนุ่มสาววัยรุ่นเยอะๆ เปิดเพลงสนุกๆ ยิ่งเข้ากันได้ดี เพราะผมได้กลิ่นแล้วภาพบรรยากาศทะเลและชายหาดนั้นลอยมาเลยจริงๆ นึกถึงสาวสวยหุ่นดีสวมเสื้อฮาวายสีเหลือง ตัดกับลายดอกชบาสีแดง ย้ำอีกครั้งนะครับว่ากลิ่นนี้คือที่สุดของ Mango Lover ใครเป็นสาวกมะม่วง รีบไปหามาลองโดยด่วน Limited Edition นะครับ หมดแล้วหมดเลย

_____________________________________