วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2563

[::REVIEW::] Chloé – LOVE, Chloé


[::REVIEW::]
Chloé – LOVE, Chloé
Perfumers : Louise Turner, Nathalie Gracia-Cetto
Launched Year : 2010


Fragrance Notes
Top Notes : Orange Blossom, Pink Pepper
Middle Notes : Iris, Hyacinth, Wisteria, Heliotrope, Lilac
Base Notes : Rice Powder, Talcum, Musk

____________________________________


               LOVE, Chloé หรือที่หลายๆคนถนัดเรียกง่ายๆว่า Chloé Love เป็นไลน์น้ำหอมเล็กๆที่ปัจจุบันยกเลิกสายการผลิตไปแล้วทั้งหมดนะครับ มีสมาชิกด้วยกันทั้งหมดเพียงแค่ 3 รุ่นคือ EDP รุ่นนี้ที่เป็นตัว original, EAU INTENSE ที่ปรับกลิ่นให้เข้มข้น+เป็นทางการมากขึ้น และ EAU FLORALE ที่ปรับกลิ่นให้ใช้ง่าย เบาบาง โดยรุ่น EDP นั้นเป็นผลงานของ Perfumer สองท่าน คือคุณ Louise Turner และ Nathalie Gracia-Cetto ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2010

LOVE, Chloé, LOVE, Chloé EAU INTENSELOVE, Chloé EAU FLORALE

               ในความเห็นผมนั้น LOVE, Chloé เป็นน้ำหอมที่สามารถแสดงออกถึงบุคลิกของหญิงสาวได้ถึงสองด้าน ด้านแรกนั้นคือภาพความ Modern ของสาวสมัยใหม่ ที่ต้องจำกัดคำนิยามว่า Working Women เพราะทุกครั้งที่ผมได้กลิ่นก็มักจะเห็นภาพนักธุรกิจหญิงวัย 25-30 ปีลอยขึ้นมาในจินตนาการ เธอรวบผมทองหางม้าพลิ้วสลวย สวมเสื้อเชิ้ตเข้ารูปสีขาวสะอาด กางเกงสแล็คสีดำ สวมรองเท้าส้นสูงเปรี้ยวๆ เดินสง่าด้วยความมั่นใจในออฟฟิศใจกลางเมืองพร้อมด้วยแฟ้มเอกสารในมือของเธอ ซึ่งนอกจากจะเป็นหญิงบุคลิกมั่นๆ ปราดเปรียว กระฉับกระเฉง ยังแฝงความเซ็กซี่สไตล์ผู้ดีอยู่ภายใน ถือว่าเป็นน้ำหอมที่ตอบโจทย์มากๆสำหรับหญิงวัยทำงานทุกๆคน

               ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้นคือหญิงสาวสไตล์ Vintage ครับ เนื่องจากน้ำหอมกลิ่นนี้ถูกรังสรรค์ขึ้นมาใน Concept ของความเป็น Retro กลิ่นจึงแฝงไปด้วยกลิ่นอายของความโบราณ ย้อนยุค ดังนั้นอีกภาพที่ผมนึกถึงคือสาวผมบลอนด์ในเครื่องแต่งกายโทนสี Beige ไม่ว่าจะเป็นเสื้อชีฟองสีครีมตัวหลวมๆพริ้วๆ กับกางเกงขาบานสีน้ำตาลอ่อน ขับรถเปิดประทุนรุ่น Classic สีครีมเช่นเดียวกัน กับฉากหลังเป็นคฤหาสน์ทรงยุโรป ฯลฯ ใครชอบลุคไหนสามารถเลือกได้เลยครับ เพราะ LOVE, Chloé ตอบโจทย์ได้ดีทั้งคู่

               LOVE, Chloé เป็นน้ำหอมแนว Floral – Powdery ที่ให้กลิ่นเด่นด้วยดอกไม้สีม่วงนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น
  1. ดอก Iris
  2. Hyacinth
  3. Wisteria
  4. Heliotrope
  5. Lilac
               Top Notes เปิดมาทำเอาผมอึดอัดและเสียดจมูกได้เล็กๆ นำด้วยดอก Iris ที่ให้กลิ่นอยู่กึ่งกลางระหว่างโทน Floral และ Powdery ส่งผลให้กลิ่นเปิดตัวนั้นมาแบบ Floral หวานฉ่ำ นวลแน่น ตลบอบอวล เมื่อรวมกันโทน Powdery แล้วให้กลิ่นคล้ายแป้งร่ำ น้ำอบน้ำปรุง น้ำหอมโบราณ หรือแป้งน้ำหอม พูดแบบนี้แต่กลิ่นไม่แก่นะครับ เพราะจริงๆ concept ที่ Perfumer ทั้งสองท่านวางไว้นั้นคือกลิ่นสไตล์ Retro ดังนั้นเนื้อกลิ่นจึงมีภาพลักษณ์ความ Vintage ติดมาด้วย


               เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงกลางเนื้อกลิ่นที่แน่นและอึดอัดจากช่วงต้นจะค่อยๆคลายตัวลง ช่วงนี้ให้ความหอมโทน Floral จากดอกไม้สีม่วงนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น Hyacinth, Wisteria, Heliotrope และ Lilac หากทว่าดาวเด่นจริงๆยังคงเป็นดอก Iris เช่นเดียวกับช่วงต้น ในขณะที่โทน Powdery ที่เด่นไม่แพ้กันได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นความแห้งสนิทแทน  คล้ายกลิ่นแป้งฝุ่นเนื้อเนียนละเอียดที่ถูกลูบไล้ทาลงบนผิวมากกว่าจะเป็นกลิ่นของน้ำหอม ดูเป็นธรรมชาติดีครับ นับเป็นกลิ่นที่สวย ทั้งมีเสน่ห์ชวนชายตามอง และยัง Sexy แบบ Feminine อีกด้วย


               Base Notes ส่งต่อกลิ่นโทน Powdery สไตล์แป้งหอมฟุ้งๆด้วยโน้ตของ Talcum และ Rice Powder หรือเรียกเป็นภาษาไทยให้เข้าใจกันง่ายขึ้นก็คือ เป็นกลิ่นจากแป้งฝุ่นกับแป้งข้าวจ้าวนั่นเอง โน้ตมีความน่าสนใจมากครับ โดยเฉพาะแป้งข้าวจ้าวที่ให้กลิ่นคล้ายหวานแบบแห้งๆใสๆ คล้ายกลิ่นรวงข้าวจริงๆ เสมือนเดินในทุ่งนาที่เต็มไปด้วยรวงข้าวสีทองสุดลูกหูลูกตา


               LOVE, Chloé รุ่นนี้เป็นรุ่น Original ของไลน์ มาในเบสความเข้มข้นของหัวน้ำหอมระดับ Eau de Parfum ด้านความติดทนและกระจายตัวนั้นทำได้ดีถึงขั้นดีมากทั้งคู่ สำหรับผมอยู่ได้เกิน 10 ชั่วโมง พร้อมกับ sillage ที่โชยออกมาได้เรื่อยๆอย่างไม่ขาดสาย แนะนำให้ฉีดเพียง 1-2 สเปรย์ก็เพียงพอแล้วนะครับเพราะเนื้อกลิ่นค่อนข้างแน่นและเข้มข้นดีทีเดียว ไม่จำเป็นต้องฉีดเยอะกลิ่นก็ฟุ้งทั้งวันแล้ว หากสเปรย์หนักมืออาจจะอึดอัดได้ทั้งคนรอบข้างและตัวผู้ฉีดเองได้ แต่หากใครชอบกลิ่นน้ำหอมชัดๆหรืออยากฉีดดมเอง ก็จัดหนักๆได้เลยตามสบาย

               สำหรับเมืองไทย LOVE, Chloé เหมาะสำหรับช่วงฤดูหนาวหรือที่อากาศเย็นซักหน่อย เพราะมีเนื้อกลิ่นค่อนข้างหนัก อาจจะไม่เหมาะนักสำหรับอากาศร้อนอบอ้าว แต่หากควบคุมปริมาณการฉีดก็สามารถใช้ได้ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากวันทั้งวันคุณอยู่แต่ในห้องแอร์ฉ่ำๆก็ใช้ได้เลยไม่มีปัญหา ใส่ทำงาน หรือใส่เที่ยวออกเดทในบรรยากาศโรแมนติกก็ได้ทั้งนั้น


Chloé – LOVE, Chloé's Commercial
_____________________________________________________