วันเสาร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

[::REVIEW::] MUGLER – ANGEL



[::REVIEW::]
MUGLER – ANGEL
Perfumers : Olivier Cresp, Yves de Chiris
Launched Year : 1992


Fragrance Notes
Top Notes : Bergamot, Jasmine, Cassia, Coconut, Mandarin Orange, Melon, Cotton Candy
Middle Notes : Apricot, Blackberry, Honey, Jasmine, Lily-of-the-Valley, Orchid, Peach, Plum, Rose, Red Berries
Base Notes : Amber, Caramel, Musk, Patchouli, Chocolate, Tonka Bean, Vanilla

____________________________________


               ANGEL นี่เป็นน้ำหอมกลิ่นแรกของแบรนด์ Thierry Mugler เลยนะครับ ออกมาตั้งแต่ปี 1992 ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงผลิตขายมาอย่างต่อเนื่องเพราะถือเป็นรุ่นเรือธงที่ได้รับความนิยมสูงมาก แถมยังแตก flanker รุ่นลูกรุ่นหลาน รวมถึง limited edition ต่างๆออกมาอีกนับไม่ถ้วน ซึ่งรุ่นที่ผมกำลังจะเริ่มรีวิวในวันนี้คือรุ่น Eau de Parfum อันแสนโด่งดัง และยังเป็นแม่แบบให้แก่น้ำหอมรุ่นอื่นๆในไลน์เดียวกันอีกด้วยครับ

               ว่ากันว่า ANGEL คือน้ำหอมแนว Gourmand กลิ่นแรกของโลก ซึ่งก็คงจะไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นักหากมีใครถามถึงน้ำหอมกลิ่นโทนขนมหวานแล้วจะมีชื่อ ANGEL โผล่ขึ้นมาเสมอ เพราะถือเป็นตัวแม่ของวงการน้ำหอมโทนขนมมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ แถมยังมีเครื่องการันตีถึงคุณภาพและความนิยมของมันด้วยรางวัลชนะเลิศในสาขา Fragrance Hall of Fame งาน FiFi Award ประจำปี 2007 ซึ่งถือเป็นงาน Oscar สำหรับวงการน้ำหอมด้วยเลยทีเดียว

               ANGEL จัดเป็นน้ำหอมที่ให้กลิ่นซับซ้อน มีชั้นเชิง และแม้จะมาในโทนขนมแต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เข้าถึงยาก ไม่ใช่ทุกคนที่ได้กลิ่นแล้วจะชอบไปซะทั้งหมด แนว love it or hate it ถ้าใครได้กลิ่นแล้วไม่หลงรักก็คงจะเกลียดไปเลยยาวๆ โน้ตเด่นของ ANGEL นั้นประกอบด้วย
  1. Patchouli หรือใบพิมเสน
  2. Chocolate
  3. Caramel
  4. น้ำผึ้ง
  5. Vanilla
  6. Cotton Candy หรือขนมสายไหม

               เป็นยังไงครับ โน้ตแต่ละอย่าง หวานสะใจกันไหม 5555 เห็นหวานๆแบบนี้แต่อย่าได้คิดว่ากลิ่นจะมาทางน่ารัก น่ากิน หรือดูคิกขุเลยนะครับ เพราะจริงๆแล้ว ANGEL นั้นมาในบุคลิกของสาวสาย dark ที่ไม่ได้มาแบบเล่นๆ แต่ความ sexy ของเธอนั้นจริงจัง แถมยังค่อนข้างออกแนว hardcore ด้วยครับ จะว่าน่ากินก็น่ากิน แต่ก็ดุร้ายใช่เล่น ดมกลิ่นครั้งแรกผมอยากจะเปลี่ยนชื่อเป็น DEVIL แทนเพราะความ dark และ sexy ของมันดูไม่น่าจะใช่นางฟ้าอย่างชื่อที่ถูกตั้งนัก แต่ก็อย่างที่รู้กันว่า concept ของบ้าน Thierry Mugler คือความติสต์หลุดโลกอยู่แล้ว ดังนั้นหากคำว่า ANGEL ของเขาไม่ได้นิยามถึงความสดใสอ่อนโยนก็คงจะไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก

               อ้อ ผมขอแจ้งนิดนึงนะครับว่า ANGEL นั้นมีโน้ตที่เป็นส่วนประกอบรองอยู่เยอะมาก แต่ด้วยความที่ Perfumer (Olivier Cresp และ Yves de Chiris) เขาเบลนด์กลิ่นมาได้ค่อนข้างซับซ้อน โน้ตหลายๆอย่างผมก็เข้าไม่ถึงนะครับ มีจับกลิ่นได้จริงๆแค่ตัวเด่นๆอยู่ไม่กี่อย่าง ขออภัยด้วยครับ (แค่นี้ก็เล่นเอาผมปวดหัวไปหมดแล้ว TT)

               Top Notes ทันทีที่ได้สเปรย์ออกมาจมูกผมก็ได้สัมผัสกับความ dark ที่เต็มแน่นและมีพลังทำลายล้างสูงมากเหลือเกิน เพราะมันเปิดตัวด้วยโทน Oriental, Chypre และ Gourmand ที่ต่างก็พากันถาโถมเข้ามาเตะจมูกอย่างไม่บันยะบันยัง นำด้วยกลิ่น Chocolate ที่เข้มข้นมาก เข้มจนออกไปทางขมปี๋ มาคู่กับกลิ่นของ Caramel หวานๆที่เมื่อรวมกันออกมาแล้วชวนให้นึกถึงของเหลวหนืดสีดำหรือสีน้ำตาลเข้มไหม้ๆ อารมณ์เหมือนลาวาเหลวร้อนๆในเวอร์ชั่นที่เปลี่ยนจากไฟเป็น Chocolate สีดำสนิทแทน ลองคิดดูนะครับว่าถ้าเปรียบเป็นตัวคนจะ sexy เร่าร้อนและน่ากินได้ขนาดไหนกัน ซึ่งทั้งคู่นั้นโดดเด่นเฉิดฉายอยู่บน Patchouli ที่มอบความรู้สึก Chypre หรูหราปนสากจมูกรองพื้นอยู่ด้านหลังครับ

               เมื่อเข้าสู่ช่วงกลาง ความสากจมูกของ Patchouli นั้นเบาบางลง เผยให้ได้สัมผัสถึงความ dark ที่ ANGEL พาดำดิ่งลงไปสู่ความ deep อันแสนมืดมิด ทว่าความหวานโทนขนมสาย Hardcore ก็ยังคงประคับประคองอยู่ควบคู่กันไปเช่นกัน ผมแอบจับกลิ่นหวานแบบน่ารักๆแซมอยู่อ่อนๆ ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นกลิ่นสายไหมกับกลิ่นหวานหยดย้อยของน้ำผึ้งที่เพิ่มเข้ามาได้ในช่วงนี้ ราวกับว่าน้ำผึ้งนั้นถูกเติมเข้ามาเพื่อช่วยปรับโทนหวานให้มีความกลมกล่อมมากขึ้น เป็นความสมดุลกันพอดิบพอดีระหว่างความหวานและความ dark ครับ

               Base Notes นั้นมาแบบอบอุ่น ไม่ร้อนแรงเท่าตอนแรกแล้ว เหลือแค่ความอบอุ่นกรุ่นๆที่น่าเข้าหาแทน เป็นช่วงของ Vanilla, Amber, และถั่ว Tonka Bean ทั้งนี้ทั้งนั้น ตลอดช่วงอายุกลิ่น Patchouli โชยมาตลอดนะครับ ช่วงนี้ผมสเปรย์บนผิวมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง แต่กลิ่นยังคงโชยมาได้เรื่อยๆ โดยมาแบบอ่อนหวาน เย้ายวน ไม่ได้ดุร้ายอันตรายเท่าช่วงแรกๆ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่กลิ่นมีความลดระดับความเข้มข้นลงมาบ้างเพราะหากไม่เป็นเช่นนั้นผมคงได้ไข้ขึ้นกันเลยทีเดียว

               ANGEL EDP แน่นอนว่าหัวน้ำหอมต้องใส่มาในระดับ Eau de Parfum นะครับ และอย่างที่กล่าวไปคือความทนและการกระจายตัวของ sillage ทำได้ดีมาก ดีในลักษณะที่ว่า ดีเกินไป น้ำหอมรุ่น intense ของหลายๆแบรนด์ยังสู้ไม่ได้ หากใครชื่นชอบและอยากใช้ในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบเมืองไทยก็อาจจะต้องมีปรับปริมาณการฉีดให้เหมาะสมนะครับ โดยเฉพาะช่วงแรกถึงกลางๆที่กลิ่นมีพลังทำลายล้างสูงมาก สเปรย์อย่างเบามือคนรอบข้างน่าจะโอเคกว่าเพราะอย่าลืมว่านี่คือกลิ่นแนว love it or hate it ซึ่งผมก็คิดว่าคงมีคนไม่น้อยที่อยู่ในกลุ่ม hate it (และผมก็อยู่ในกลุ่มด้วยอีกหนึ่งคน TT)

               ANGEL เป็นน้ำหอมกลางคืนนะครับ เหมาะสำหรับใส่ในสถานที่ที่อากาศเย็นฉ่ำจนถึงขั้นหนาว ใส่เที่ยวกลางคืนเหมาะมาก ปาร์ตี้สังสรรค์กับแก๊งเพื่อนสาวในผับบาร์หรูกลางเมืองก็คงจะเด่นสุดในกลุ่ม มองในมุมเพื่อนสาวก็คงจะทั้งเผ็ด ทั้งแซ่บ เป็นดาวโต๊ะได้เลยทีเดียว หรือจะใส่ล่าเหยื่อก็น่าจะได้ติดไม้ติดมือกลับห้องบ้างบ่อยครั้งหากสเปรย์อย่างเบามือ พอให้มีเสน่ห์ชวนเหยื่อเหลียวหลังมาติดกับ ไม่ควรใส่ในยามกลางวันร้อนๆครับ โดยเฉพาะทำกิจกรรมกลางแจ้ง เรียนหนังสือ พบปะผู้ใหญ่ ฯลฯ


MUGLER - ANGEL's commercial video

____________________________________