วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558

[::REVIEW::] HERMÈS – TERRE D’HERMÈS EAU TRÈS FRAÎCHE


[::REVIEW::]
HERMÈS – TERRE D’HERMÈS EAU TRÈS FRAÎCHE
Perfumer : Jean-Claude Ellena
Launched Year : 2014


Fragrance Notes
Top Notes : Orange, Citruses, Watery notes
Heart Notes : Geranium
Base Notes : Woody notes, Patchouli, Cedar

_________________________________________


               TERRE D’HERMÈS ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกลิ่นไอดินหลังฝนตก พื้นดินที่แห้งแล้งแตกระแหงท่ามกลางแสงแดดแผดเผาและอากาศที่ร้อนระอุ จนกระทั่งฝนตก สายฝนโปรยปรายโหมกระหน่ำลงมา กระทบกับก้อนดินแห้งๆ เกิดกลิ่นไอดินที่สดชื่นและเย็นชุ่ม HERMÈS รังสรรค์กลิ่นไอดินหลังฝนตกออกมาได้อย่างลงตัว ด้วยการผสมผสานโน้ตระหว่าง Citrus เข้ากับโทน Woody และ Spicy ในปริมาณที่พอเหมาะ เกิดเป็นกลิ่น Citrus หรูหรา นุ่มนวล และมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร

               สำหรับ flanker รุ่นล่าสุดอย่าง "TERRE D’HERMÈS EAU TRÈS FRAÎCHE" ถูกปรับกลิ่นให้มีความสดชื่นมากยิ่งขึ้น ด้วยการชูโน้ตทางฝั่ง Citrus ให้โดดเด่นออกมา โดยมีโทน Woody ทำหน้าที่รอง ซ่อนด้วยโทน aquatic เล็กๆ เป็น TERRE D’HERMÈS เจนเนอร์เรชั่นใหม่ที่ทันสมัย เข้าถึงบุคคลทุกช่วงวัย และใช้ได้กับทุกสภาพอากาศ โดยยังคงความหรูหราไว้ไม่มีเปลี่ยน

               กลิ่น Citrus ที่ถูกปรับให้โดดขึ้น ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ flanker รุ่นนี้ฉีกแนวออกจาก TERRE D’HERMÈS รุ่นดั้งเดิมค่อนข้างมาก ในความเห็นของเรา รุ่นนี้เปรียบเสมือนการผสมผสานระหว่าง TERRE D’HERMÈS ตัวเดิมเข้ากับ Eau d’Orange Verte และ Eau de Pamplemousse Rose ซึ่งโดดเด่นด้วยกลิ่น Citrus คมๆ ในขณะที่กลิ่นอาย Earthy, Woody และ Spicy ที่พบได้ใน TERRE D’HERMÈS รุ่นเก่าได้ถูกปรับให้บางเบาลงมากจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม อย่างไรก็ดี กลิ่น Citrus ที่โดดขึ้นถือเป็นจุดเปลี่ยนในแง่ของความอ่อนเยาว์ สดใส ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีหากรุ่น EAU TRÈS FRAÎCHE จะเข้ามาทำตลาด Mass Market กับคนหลายๆช่วงอายุครอบคลุมถึงกลุ่มวัยรุ่นด้วย

               กลิ่นแรก นำด้วยผลไม้ตระกูลส้มที่สดชื่นและติดกลิ่นเปรี้ยวจัดๆ มอบความรู้สึกเย็นซาบซ่าสุดขั้ว ซึ่งโยงเข้าหา Eau de Pamplemousse Rose ได้ถึง 80% ต่างที่รุ่นนี้ให้กลิ่นส้มที่เข้ม ขม และคมกว่า ราวกับคั้นออกมาจากเปลือกสดๆ ในขณะที่ Eau de Pamplemousse Rose ให้กลิ่นเกรฟฟรุ๊ตใสๆบางๆ ประกอบด้วยกลิ่น Aquatic สะอาดๆ ที่เข้ามาช่วยปรับให้กลิ่นใช้ง่ายนั่นเอง

               สำหรับกลิ่นโทน Woody, Earthy และ Spicy ที่พบใน TERRE D’HERMÈS รุ่นเดิม คงต้องบอกว่ามีอยู่ในปริมาณที่น้อยมากๆ เพราะรุ่น EAU TRÈS FRAÎCHE เน้นโฟกัสไปที่กลิ่น Citrus เป็นหลัก ซึ่งมองในแง่ดี ถือเป็นการแสดงออกทางด้านสว่างที่ทันสมัยขึ้น โดยครอบคลุมตั้งแต่วัยแรกรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ก็ใส่ได้

               ปลายกลิ่นประกอบไปด้วยโน้ตในเชิง Woody และ Patchouli บางๆ ซึ่งไม่โดดเด่นเท่าไหร่นัก Patchouli มอบความ Earthy เล็กน้อย ซึ่งในคหสต. จับกลิ่น Aquatic ได้ชัดกว่าพอสมควรล่ะ

               ความทนและการกระจายกลิ่น ถือว่าติดค่อนข้างทนแต่กระจายไม่แรงมากนัก จากที่ลองกับตัวรู้สึกกลิ่นค่อนข้างจะติดผิวมากกว่าฟุ้งกระจาย หากเทียบกับ TERRE D’HERMÈS รุ่น EDT และ Pure Parfum ที่ติดทนมากๆทั้ง 2 รุ่น, flanker รุ่นนี้ยังคงเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด (แต่ก็เข้าใจว่ากลิ่นสดชื่นขึ้น ความทนก็ต้องลดลงตามไปด้วย จะให้ทนเทียบเท่ารุ่นพี่ที่กลิ่นแน่นกว่าคงเป็นไปได้ยาก) ใช้ได้ทุกโอกาส โดยเฉพาะอากาศร้อนๆจะเวิร์คมาก เล่นกีฬา ทำกิจกรรมกลางแจ้ง เรียน ทำงาน ฯลฯ ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน จะฤดูไหนน้ำหอมกลิ่นสดชื่นก็เหมาะอยู่แล้วเนาะ ใครชอบ TERRE D’HERMÈS รุ่นดั้งเดิมลองดูรุ่นนี้ได้

_________________________________________