วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

[::REVIEW::] DOLCE&GABBANA – the one



[::REVIEW::]
DOLCE&GABBANA – the one
Launched Year : 2006


Fragrance Notes
Top Notes : Bergamot, Lychee, Mandarin, Peach
Middle Notes : Jasmine, Madonna lily, Lily-of-the-valley
Base Notes : Amber, Musk, Plum, Vanilla, Vetiver

_______________________________________


               น้ำหอมตระกูล the one เพิ่งจะออกมาครั้งแรกเมื่อปี 2006 นี้เองนะครับ หากทว่าทุกวันนี้มันกลายเป็นไลน์น้ำหอมที่มี flanker แตกออกมามากที่สุดของ DOLCE&GABBANA กันเลยทีเดียวไม่ว่าจะทางฝั่งผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตาม ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าไลน์นี้ขายดีและได้รับความนิยมอย่างสูงมากจริงๆ สำหรับกลิ่นที่กำลังจะกล่าวถึงในรีวิวนี้คือ the one รุ่นแรก ซึ่งเป็นรุ่น original จากทางฝ่ายหญิง มาในเบส Eau de Parfum ครับ

ตัวอย่าง Flanker รุ่นต่างๆของน้ำหอมไลน์ the one
(จากซ้ายไปขวา rose the one, the one lace edition และ the one Essence)

               the one มาในขวดแก้วใสทรงสี่เหลี่ยม พร้อมด้วยน้ำหอมสีทองที่บรรจุอยู่ภายใน ให้ความรู้สึกหรูหรามีราคาทันทีตั้งแต่แรกเห็น เป็นน้ำหอมในกลุ่ม Oriental – Floral – Fruity ที่ทางแบรนด์เคลมเอาไว้ว่า ถูกรังสรรค์ออกมาสำหรับสาวยุคใหม่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นตัวของตัวเอง พร้อมด้วย Slogan ที่ว่า “Every woman is The One!” โดยเลือกนักแสดงสาวสุด sexy อย่าง Scarlett Johansson มาเป็น Presenter ของน้ำหอมกลิ่นนี้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าลุคของเธอนั้นใช่มากๆครับ ทางทีมงานเลือกพรีเซนเตอร์ได้ถูกคนมาก เนื่องจากกลิ่นของ the one นั้นมีออร่าความ sexy ในตัวสูง แถมเปี่ยมไปด้วยความ feminine ที่ดูหรูหรา elegant ดูแพง ดูเป็นสาวผู้ดีมีระดับ ถ้านึกไม่ออกลองดูภาพ Ads ของน้ำหอมกลิ่นนี้ได้เลยครับ Scarlett สื่อออกมาได้ตรงคอนเซปดีมาก

               โน้ตของ the one เด่นด้วยกลิ่นผลไม้อย่างลูกพีชกับลิ้นจี่ โดยทั้งคู่นั้นยืนโดดเด่นอยู่บนฐานของวานิลลาที่ปรับกลิ่นให้ออกทางหวานอบอุ่นสไตล์ Oriental ดังนั้นกลิ่นของ the one จึงค่อนข้างเหมาะกับใช้ในสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็น เช่น ยามพลบค่ำ ยามค่ำคืน เป็นต้น

               Top Notes เปิดฉากมาก็พบกับโทน Fruity เป็นอย่างแรกเลยครับ มาแบบ Creamy เต็มแน่น หวานฉ่ำ นุ่มนวล ละมุนจมูก และ Powdery นิดๆ กลิ่นไม่ออกเชิงสดชื่นหรือสดใสมากนักเนื่องจากพื้นเพแล้วปูทางมาด้วยโทน Oriental กันตั้งแต่ต้น ผมจับกลิ่นลูกพีชกับลิ้นจี่ได้ชัดสุด ให้ความรู้สึกหวาน น่ารัก เคล้าความรู้สึก sexy เย้ายวนชวนเข้าหา ชวนคลุกคลีนัวเนียในยามเดียวกัน แอบน่ากินหน่อยๆด้วยครับ ซึ่งโดยส่วนตัวนึกถึงกลิ่นซูกัสสีชมพู หากแต่มาในเวอร์ชั่นที่ตัดกลิ่นเปรี้ยวออกไปเท่านั้นเอง

               ช่วงกลางแทรกเข้ามาด้วยโทน Floral อ่อนๆจากดอกไม้เฉดสีขาวนานาชนิด ผมจับกลิ่นดอกลิลลี่แซมขึ้นมาได้เพียงอย่างเดียว ซึ่งทางเว็บไซต์แจ้งว่าเป็นดอก Madonna Lily ไม่รู้จักพันธุ์นี้เหมือนกันนะครับ แต่กลิ่นมันชวนให้นึกถึงกลิ่นดอกลิลลี่แบบเดียวกับที่สัมผัสได้ใน RÊVE ซะเหลือเกิน (RÊVE โดย Van Cleef & Arpels) และถึงแม้ว่าจะมีโน้ตในกลุ่ม Floral เพิ่มเข้ามา แต่กลิ่นของช่วงนี้ยังคงเด่นด้วยกลิ่นลูกพีชกับลิ้นจี่เช่นเดียวกับตอนต้นเลยครับ ยังคงให้กลิ่นแน่นๆ หวานละมุน ปน Creamy เช่นเคย

Van Cleef & Arpels - RÊVE

               Base Notes เด่นด้วยกลิ่นหวานรันจวญชวนงานเข้ายิ่งกว่าเดิมด้วยโน้ตของ Vanilla ที่เป็นตัวการของโทน Oriental สุดแสนจะ Sexy ยั่วยวน และอบอุ่น แซมกลิ่น Amber นิดหน่อย ซึ่งช่วงนี้แม้กลิ่นจะอ่อนบางลงแล้วแต่ก็ยังคงกระจาย sillage ออกมาเตะจมูกอยู่เรื่อยๆไม่ขาดสาย

               ภาพที่ผมนึกถึงยามได้กลิ่น the one นั้น ต้องบอกเลยว่านึกถึงหญิงสาวสไตล์เดียวกันกับ Scarlett Johansson จริงๆครับ ภาพสาวฝรั่งผมบลอนด์วัยประมาณ 25 ปีปรากฏขึ้นมาในจินตนาการ เธอสวมชุดคอร์เซ็ทสีทองสลับครีม ทาปากสีแดงโดดเด่น และมีนัยน์ตาหวานเย้ายวนที่ใครเห็นเป็นต้องหลงเสน่ห์

               the one รุ่นนี้มาในเบส Eau de Parfum จัดว่าเป็นน้ำหอมที่ติดทนได้อย่างยาวนานและกระจายตัวได้ดีในระดับที่น่าพึงพอใจ เพราะบนผิวผมยังคงได้กลิ่นอยู่แม้จะผ่านไปแล้วกว่า 8 ชั่วโมง พร้อมด้วยการกระจาย sillage ได้รอบตัว คนรอบข้างได้กลิ่นโชยออกมาเรื่อยๆไม่ขาดสายอย่างแน่นอน สาวๆคนไหนที่กำลังมองหาน้ำหอมกลิ่นหรูหรา มีเสน่ห์ ลองเก็บ the one ไว้เป็นตัวเลือกในลิสต์ได้นะครับ น่าจะเข้าทางไม่ใช่น้อย

               เหมาะสำหรับอากาศเย็นๆซักนิดหน่อย เช่นใส่ทำงานในห้องแอร์ ใส่ออกงานสังสรรค์ ทานมื้อค่ำสุดหรูกับคนรัก ฯลฯ ได้หมดครับ (ยกเว้นแต่ใส่ออกแดด ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง อาจจะแรงเกินไปนิดหน่อย ทั้งคนรอบข้างและตัวคนใส่เองอาจจะเวียนหัวได้ง่ายหากไม่ชินกับกลิ่นแนว Oriental) โดยส่วนตัวคิดว่าเหมาะมากสำหรับใส่คู่กับชุดเดรสสวยๆสีครีมหรือทองอ่อนๆ ทาปปากสีแดง รองเท้าส้นสูงเปรี้ยวๆ กับกระเป๋าคลัทช์ระยิบระยับซักใบ น่าจะไปเข้ากันได้ดีกับกลิ่นของน้ำหอม

DOLCE&GABBANA - the one's commercial video
_______________________________________