วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

[::REVIEW::] CHANEL – LES EXCLUSIFS DE CHANEL – N°22 EAU DE PARFUM



[::REVIEW::]
CHANEL
LES EXCLUSIFS DE CHANEL
N°22 EAU DE PARFUM
Perfumer : Jacques Polge
Launched Year : 2016


Fragrances Notes
Top Notes : Aldehyde, Neroli, Lily-of-the-Valley
Middle Notes : Jasmine, Tuberose, May Rose, Ylang-Ylang
Base Notes : Vanilla, Sandalwood

__________________________________________


               ก่อนอื่นขออนุญาตบอกเล่าเรื่องราวและประวัติของ CHANEL N°22  ตาม timeline ที่ทราบซักเล็กน้อยนะครับ อาจจะไม่ครบถ้วนหรืออาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมดซะทีเดียว ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยครับ ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมคอมเม้นแชร์กันได้นะ ^^ (หากยาวไป ใครขี้เกียจอ่าน เลื่อนไปอ่านรีวิวได้ที่ย่อหน้าที่ 7 เลยครับ)

               เดิมทีนั้น CHANEL N°22 ถือเป็นน้ำหอม Classic ยุคบุกเบิกของ CHANEL อีกกลิ่นหนึ่ง ซึ่งออกตามหลังน้ำหอมกลิ่นแรกของแบรนด์อย่าง CHANEL N°5 เพียง 1 ปีเท่านั้นครับ ทั้งคู่เป็นฝีมือการปรุงของคุณ Ernest Beaux สุคนธกรผู้ที่รับเกียรติและความไว้วางใจจาก Coco Chanel ให้มารังสรรค์น้ำหอมให้หลายต่อหลายกลิ่น โดย CHANEL N°22 เวอร์ชั่น Original นั้นผลิตออกมาด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ EDP และ EDT ซึ่งที่มาของเลข 22 ที่นั้นมาจากปีที่น้ำหอมกลิ่นนี้ถูกผลิตขึ้นมาเป็นครั้งแรก นั่นคือปี ค.ศ.1922 นั่นเอง และยังเป็นน้ำหอมลำดับที่ 22 ที่คุณ Ernest Beaux ปรุงไว้ให้ Coco Chanel เลือกกลิ่นอีกด้วย

               แต่ข่าวร้ายก็คือ CHANEL N°22 เวอร์ชั่น Vintage ดั้งเดิมนั้นวางขายได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น เนื่องจากราวๆปี 1928 ทางแบรนด์ก็ยกเลิกการผลิตน้ำหอมกลิ่นนี้ไป ส่งผลให้น้ำหอมสูตร original นั้นกลายเป็น rare item ที่หายากมาก จนแทบจะหายสาบสูญไปตามกาลเวลา

               CHANEL N°22 ถูกนำกลับมาผลิตใหม่อีกครั้งหนึ่งในปี ค.ศ.1989 โดยยังคงผลิตออกมาทั้งรูปแบบ EDP และ EDT เช่นเดิม หากทว่าคราวนี้คุณ Jacques Polge ได้รับหน้าที่เป็นสุคนธกรผู้ปรับสูตรและปรุงแต่งกลิ่นใหม่ให้แก่น้ำหอมหมายเลข 22 และในปี ค.ศ.1998 น้ำหอมเวอร์ชั่นนี้ก็ถูกยกเลิกการผลิตไปอีกรอบหนึ่ง และถูกแทนที่ด้วยอีกเวอร์ชั่นที่ถูกปรับสูตรใหม่ในเวลาเดียวกัน

               ปี 2007 ทางแบรนด์ได้ริเริ่มสร้างกลุ่มน้ำหอมไลน์ Niche ประจำแบรนด์ขึ้นมาเพื่อยกระดับไลน์น้ำหอมให้มีความหรูหราและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับบนมากยิ่งขึ้น ภายใต้ชื่อไลน์ว่า  “LES EXCLUSIFS DE CHANEL” ซึ่ง CHANEL N°22 ก็เป็นหนึ่งในน้ำหอม Vintage หลายๆกลิ่นที่ถูกนำมาปรับปรุงสูตรโดยคุณ Jacques Polge ท่านเดิม และถูกจับยัดเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของไลน์ Niche สุดแพงนี้ไปในที่สุด โดยมาในรูปแบบความเข้มข้นของหัวน้ำหอมระดับ Eau de Toilette

               และอัพเดตล่าสุด เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา ทางแบรนด์ได้ทำการปรับสูตรน้ำหอมไลน์ Exclusifs ใหม่ทั้งหมด โดยทุกกลิ่นนั้นถูกปรับปริมาณความเข้มข้นของหัวน้ำหอมขึ้นมาเป็นระดับ Eau de Parfum (และแน่นอนว่ารุ่น EDT ก็ถูกยกเลิกการผลิตไป กำลังจะกลายเป็น rare item ไปในไม่ช้า) ซึ่งรีวิวนี้ก็จะขอพูดถึง CHANEL N°22 รุ่น EAU DE PARFUM ตัวใหม่นี้ล่ะครับ โดยต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวผมเองยังไม่เคยลองรุ่นไหนๆของตระกูลเลข 22 มาก่อนเลย ไม่ว่าจะจะเป็น ทั้ง EDP และ EDT ของเวอร์ชั่น Vintage หรือ Parfum และ EDT เวอร์ชั่นก่อนหน้าของไลน์ Exclusifs ดังนั้นรีวิวนี้จึงไม่ใช่รีวิวเชิงเปรียบเทียบ เพราะไม่สามารถเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างรุ่นใหม่และรุ่นเก่าได้ จะอ้างอิงเฉพาะความรู้สึกที่ได้สัมผัสในเวอร์ชั่นใหม่นี้เท่านั้นครับ (แต่อาจจะมีพูดถึง N°5 บ้างเนื่องจากส่วนตัวเห็นว่าเป็นน้ำหอมที่มีความสัมพันธ์กันในหลายๆด้าน เช่นโทนกลิ่นและโครงสร้างของโน้ตต่างๆที่มาในลักษณะเดียวกัน แต่ไม่เหมือนซะทีเดียว)

              ทางเว็บไซต์ทางการของแบรนด์ระบุข้อมูลของ CHANEL N°22 ไว้ว่า เป็น Light Variation ของ CHANEL N°5 ที่มาในเวอร์ชั่นโปร่งเบา อ่อนโยน เปรียบได้กับเลเยอร์บางๆของผ้าแพรที่ใช้สำหรับคลุมหน้าสตรี และผิวพรรณอันแสนอ่อนโยนของหญิงสาวที่ถูกอาบชะโลมไปด้วยกลีบดอกไม้นานาพันธุ์ โน้ตหลักที่ถือเป็น main accord ของ N°22 นั้นจะมีโครงสร้างคล้ายๆกับ N°5 ครับ นั่นคือเด่นด้วยโน้ตสังเคราะห์ที่มีชื่อเรียกว่า Aldehyde เป็นหลัก (Aldehyde หรือ อัลดีไฮด์ เป็นสารเคมีที่ให้กลิ่นอาย Classic โบร่ำโบราณ ถือเป็นโน้ต signature ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ CHANEL ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เนื่องจาก CHANEL นั้นเป็นแบรนด์แรกของโลกที่นำสารเคมีชนิดนี้มาใช้เป็นส่วนประกอบในการทำน้ำหอม ซึ่งกลิ่นดังกล่าวก็คือ CHANEL N°5 เวอร์ชั่น vintage ที่ออกปี ค.ศ.1921 นั่นเอง) สาร Aldehyde นั้นมาคู่กับ Tuberose หรือดอกซ่อนกลิ่นที่ให้กลิ่นอายโทน White Floral แบบเฟมินีน

Aldehyde (สารอัลดีไฮด์) และ Tuberose (ดอกซ่อนกลิ่น) โน้ตหลักของ CHANEL N°22


Aldehyde (สารอัลดีไฮด์), กุหลาบ May Rose, ดอกมะลิ และกระดังงาTuberose โน้ตหลักของ CHANEL N°5
           
               นอกจากนั้นแล้ว N°22 ยังคงประกอบไปด้วยดอกไม้นานาชนิดที่เข้ามาสมทบ ทำหน้าที่เป็นโน้ตรองประกอบไปกับ main accord อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ดอกส้ม, Lily-of-the-Valley, มะลิ, ดอกกุหลาบ และกระดังงา จะเห็นว่าโน้ตหลายๆอย่างแอบมีความใกล้เคียงกับ N°5 แต่ลดบทบาทลงมาเป็นโน้ตรองที่ทำหน้าที่เป็นส่วนผสมรอง (เชื่อว่าอ่านมาถึงตรงนี้น่าจะมีหลายคนที่งงหรือสับสนกับโน้ตของทั้งสองรุ่น ลองดูภาพด้านบนจะเข้าใจง่ายขึ้นครับ) โดยโน้ตทุกอย่างรวมกันออกมาแล้วให้กลิ่นอายสไตล์น้ำหอมโบราณที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังของความ Classic ซึ่งแม้ว่าเจ้า N°22 เวอร์ชั่นที่หยิบมารีวิวนี้จะเป็นรุ่นใหม่ที่ได้รับการปรับสูตรมาหมาดๆแล้วก็ตาม แต่กลิ่นอายความ Classic ของมันนั้นยังคงเต็มเปี่ยม เพราะเป็นหนึ่งในกลุ่มน้ำหอมตัว Classic ซึ่งน้ำหอมลักษณะนี้จะเป็นน้ำหอมผู้ใหญ่ ในความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะต้องวัยคุณแม่ คุณย่า คุณยาย ซักอายุ 50 ปีเป็นอย่างน้อยจึงจะใส่ออกมาแล้วเข้ากับวัยและบุคลิก เนื่องจากกลิ่นนั้นค่อนข้างจะมีความเป็นทางการสูงทีเดียว และยังมีความน่าเกรงขาม น่าเคารพนับถืออยู่อีกด้วย แต่ถ้าหากลองจินตนาการถึงมุมมองของชายที่อยู่ในวัยเดียวกัน ผู้หญิงที่ใส่ N°22 คงเป็นหญิงที่สวย สง่างาม และมีเสน่ห์ไม่ใช่น้อย ในสายตาของเขา

              ในช่วงแรกที่กลิ่นเปิดตัวนั้น ผมสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นอาย Old Fashion ได้แบบเต็มๆ เพราะสไตล์กลิ่นที่ยังคงยึดถือความโบร่ำโบราณสไตล์ Vintage นั้นยังมีให้ได้สัมผัสอย่างเต็มเปี่ยม 100% แม้จะเป็นเวอร์ชั่นที่ถูกปรับสูตรมาแล้วก็ตาม เป็นกลิ่นที่ถ้าหากคุณแม่ คุณย่า คุณยายได้ลองดมซักครั้งหนึ่งอาจจะตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกเลยก็เป็นไปได้ (และในทางกลับกัน สำหรับหนุ่มๆสาวๆวัยเรียน วัยทำงาน อาจจะเบือนหน้าหนีได้ง่ายๆเพราะกลิ่นค่อนข้างมีอายุ) อาจจะต้องเรียกว่าเป็นน้ำหอมสำหรับผู้ใหญ่ที่สวยหรู และสง่างามซะมากกว่า

              กลิ่นเปิดนำด้วยกลิ่นโทน Floral และ Aldehyde ที่พวยพุ่งออกมาปะทะจมูกอย่างแรงด้วยส่วนผสมของดอกไม้สีขาวนานาชนิด นำโดย Tuberose หรือดอกซ่อนกลิ่นที่ทำหน้าที่เป็นนางเอกของ CHANEL N°22 เคียงคู่ไปกับกลิ่นโทน Aldehyde ที่ชวนให้ผมนึกถึง CHANEL N°5 ขึ้นมาอย่างจังๆ หากแต่เป็นเวอร์ชั่นที่ออกโทน Floral ด้วยดอกไม้สีขาวมากกว่า ซึ่งส่วนตัวแอบนึกถึงน้ำหอมกลิ่น Calèche จากบ้าน HERMÈS ขึ้นมาอีกด้วย

              ช่วงกลางยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังความ Classic แบบไม่ลดละ กลิ่นโทน Floral เริ่มฉายแววงดงามมากขึ้นเมื่อดอกไม้นานาชนิดปรากฏตัวขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นดอกส้ม, Lily-of-the-Valley, มะลิ, ดอกกุหลาบ และกระดังงา จนเข้าสู่ช่วง Base Notes ที่ถาโถมเข้ามาด้วยโทนกลิ่น Woody และ Powdery ที่หวานทุ้ม นุ่มนวล และละมุนละไม ด้วยกลิ่นของหญ้าแฝกกับวานิลลาที่เป็นตัวปิดฉากอย่างสง่างาม กลิ่นอาย Aldehyde ที่ดูโบร่ำโบราณและสูงอายุสไตล์น้ำหอม Vintage ที่มีในตอนต้นนั้นได้ลดทอนบทบาทลงค่อนข้างมาก จนแทบจะเรียกได้ว่าหายไปเกือบ 100% เลยครับ เหลือเพียงแต่ความอ่อนหวาน อ่อนโยน และเซ็กซี่อ่อนๆกระจายออกมาจากผิว

              สารภาพตามตรงว่าตัวผมเองไม่ค่อยโอเคกับกลิ่นเปิดตัวในช่วงแรกๆเท่าไหร่นักเพราะคิดว่ากลิ่น Floral และ Aldehyde นั้นแรงไปนิด แต่ดันมาตกหลุมรักเอาช่วงท้ายเพราะทำออกมาได้ดีมาก โดยเฉพาะกลิ่นหวานรัญจวญอ่อนๆของวานิลลานั้นแอบเชื่อมโยงให้ผมนึกถึง CHANEL N°5 EAU PREMIÈRE ซึ่งเป็น flanker รุ่นที่ผมชอบมากที่สุดในไลน์ 5 ได้อีกด้วย

              22 ตัวที่หยิบมาพูดถึงในรีวิวนี้คือเบส EAU DE PARFUM นะครับ เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดที่ทางแบรนด์ปรับระดับความเข้มข้นของหัวน้ำหอมไลน์ LES EXCLUSIFS DE CHANEL นั้นถูกปรับระดับหัวน้ำหอมขึ้นมาเป็น EDP หมดแล้วทุกกลิ่น ด้านความติดทนและการกระจายตัวนั้นทำได้ดีมาก ติดทนได้ทั้งวันตั้งแต่เช้ายันเย็น โดยช่วงเย็นนั้นจะเหลือเพียงกลิ่นวานิลลาที่กระจายโทนกลิ่น Woody ออกมาจากผิวจางๆเป็นออร่ารอบตัว ซึ่งการกระจายกลิ่นก็ค่อนข้างดีมาก โดยเฉพาะในช่วงต้นหลังจากสเปรย์ออกมา ส่วนช่วงปลายคือดีงามสุดๆครับ

              สำหรับเมืองไทยแล้ว น้ำหอมหมายเลข 22 เวอร์ชั่น Eau de Parfum นี้อาจจะหาโอกาสใช้งานยากซักนิด จะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้ในช่วงฤดูหนาว ยามอากาศเย็น หรือยามค่ำคืน เนื่องจากกลิ่นค่อนข้างจะแรง เต็มแน่น ทำให้มีความอึดอัดจมูกอยู่บ้างพอสมควร แนะนำสำหรับผู้หญิงที่ก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว จริงๆกลิ่นของช่วงต้นจนถึงกลางนั้นอยากจะแนะนำให้คนอายุ 50+ แต่พอมาเจอช่วงเบส ผมว่าอายุราวๆ 30 ปีก็ใช้ได้แล้วครับ อาจจะต้องแล้วแต่คน แล้วแต่บุคลิก ใส่ออกงานหรูหรา ทำงานทางการ โอกาสพบปะทางธุรกิจ เหมาะมาก


__________________________________________