วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

[::REVIEW::] BVLGARI – LE GEMME LILAIA


[::REVIEW::]
BVLGARI – LE GEMME LILAIA
Perfumer : Daniela Andrier
Launched Year : 2014


Fragrance Notes
Galbanum, Mastic Absolute, Mint, Bitter Orange, Musk

_______________________________________


               LILAIA (ไลลาญา) ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Peridot อัญมณีสีเขียวมะกอกอันเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองและการเกิดใหม่ ทางเว็บไซต์หลักของ BVLGARI ระบุข้อมูลไว้ว่า น้ำหอมกลิ่นนี้เปรียบเสมือนเป็นสมบัติล้ำค่าของจักรพรรดิ์ฟาโรห์แห่งยุคอียิปต์โบราณ ซึ่งที่มาของชื่อ LILAIA นั้นมาจากชื่อของเทพธิดาแห่งฤดูใบไม้ผลิตามตำนานของชาวกรีกโรมันที่เล่าขานกันมา LILAIA ถูกแทนด้วยสีเขียวมะกอกเฉดเดียวกันกับสีของ Peridot ที่สื่อถึงความเป็นธรรมชาติ สอดคล้องกับกลิ่นของน้ำหอม ที่โดดเด่นด้วยความเขียวสดชื่นจากโน้ตจำพวกยางไม้ หรือที่เราเรียกกันว่าเรซิ่นนั่นเองครับ

               ขออธิบายก่อนซักนิดนึงเผื่อใครที่ยังไม่ทราบ เรซิ่น (Resin) คือส่วนผสมประเภทยางไม้ ซึ่งได้มาจากต้นไม้บางชนิดและบางครั้งก็เกิดจากการสังเคราะห์ขึ้นมาใหม่ ลักษณะของเรซิ่นจะเป็นยางเหนียวหนืดจับตัวกันเป็นก้อน มีนิ่มบ้าง แข็งบ้าง แล้วแต่ชนิดและปัจจัยทางธรรมชาติอื่นๆ กลิ่นก็จะแตกต่างกันไปตามชนิดของยางไม้นั้นด้วยเช่นกัน ส่วนใหญ่จะให้กลิ่นโทน resinous, balsamic, woody, spicy เป็นต้น ยกตัวอย่างเรซิ่นที่พบได้ง่ายในวงการน้ำหอมและเราค่อนข้างจะคุ้นเคยกันดีก็เช่น Amber, Benzoin, Incense (ธูปหอมต่างๆ) และอื่นๆ ก็ล้วนแต่จัดเป็นส่วนผสมประเภทเรซิ่นเช่นกันครับ


               สำหรับเรซิ่นที่ใช้เป็นส่วนผสมของ LILAIA นั้นมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ Galbanum และ Mastic Resin เมื่อทั้งสองผสมผสานตัวเข้ากับโน้ตรองอย่าง ใบมินต์ที่ให้ความเขียวเย็นอโรม่า, ส้มพันธุ์ Bitter Orange ที่สดชื่น และกลิ่นสุดท้ายของ Musk สะอาดๆ จะให้กลิ่นโทนสดชื่นสไตล์ Aromatic ที่มาในลักษณะสดชื่นแบบเย็นชื้น กึ่งหมองหม่น ปนกลิ่นเขียว อมขมอ่อนๆ ชวนนึกถึงบรรยากาศมืดครึ้ม เมฆฝนกำลังตั้งเค้า และชายหนุ่มมาดดี สวมชุดสีดำ บุคลิกสุขุมเย็นชา กับใบหน้านิ่งเงียบราวกับไร้ความรู้สึก จริงๆแล้ว LILAIA เป็นน้ำหอมผู้หญิงนะครับ แต่ในความรู้สึกส่วนตัวคิดว่าเป็นกลิ่น Unisex เพราะกลิ่นมันดูไม่ค่อยมีความเป็นหญิงซักเท่าไหร่ ผู้ชายน่าจะใช้ได้เช่นกัน จัดเป็นน้ำหอมแนว Aromaric – Green ครับ

               ทันทีที่กลิ่นเปิดลอยเข้ามาปะทะกับปลายจมูก ก็สัมผัสได้ถึงความสดชื่นที่มาพร้อมๆกับความสุขุมนุ่มลึก นำหน้าด้วยกลิ่นโทน Resinous จาก Galbanum ที่มอบกลิ่นสดชื่นโทนเขียวปนขมก่อนเป็นอันดับแรก เคล้าด้วยกลิ่นของผลส้ม Bitter Orange ที่(คิดว่าน่าจะ)ถูกใส่มาเพื่อช่วยประคับประคองความขมของ Galbanum และทำหน้าที่เพิ่มความสดชื่นโปร่งเบาแก่ช่วงต้น  ซึ่งตั้งแต่ต้นจนจบจะพบกับความรู้สึกสดชื่นแบบหม่นๆอยู่ตลอดเวลาเลยครับ ทำให้ LILAIA กลายเป็นน้ำหอมอีกกลิ่นหนึ่งที่แม้จะสดชื่น แต่ก็ยังเต็มแน่นไปด้วยความรู้สึกลึกลับ ชวนให้ค้นหา เป็นกลิ่นที่มีความเซ็กซี่เย้ายวนในลักษณะเงียบๆนิ่งๆ ไม่แสดงความหวือหวาออกมาชัดเจน แต่จะซ่อนเร้นความเซ็กซี่แบบมีระดับเอาไว้ข้างใน ส่วนตัวคิดว่าลักษณะกลิ่นจะมาโซนเดียวกับ eau de narcisse bleu จากบ้าน HERMÈS ซึ่งถ้าใครชอบโทนกลิ่นแบบนี้ก็คิดว่าน่าจะถูกใจเป็นพิเศษ

               ไม่นานเกินรอ เนื้อกลิ่นจะเริ่มใสขึ้นเล็กน้อย โดยส่วนตัวจับกลิ่นใบมินต์ที่ค่อยๆแทรกขึ้นมาจางๆได้  และมันจะค่อยๆปล่อยกลิ่นออกมาโดดชัดมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เนื้อกลิ่นเริ่มมีความเย็นวูบวาบสไตล์ Aromatic ชวนผ่อนคลายอารมณ์ เหมือนได้นอนบนโขดหินในถ้ำที่มืดมิด กับบรรยากาศรอบตัวที่เงียบสงัด มีเพียงเสียงหยดน้ำที่ตกลงในบ่อใจกลางถ้ำอย่างช้าๆ มีลมเย็นๆพัดมาเอื่อยๆ มอบความเย็นสบายอย่างไม่ขาดสาย ฯลฯ คือพูดง่ายๆว่าดมแล้วรู้สึกสบายใจ ตัวเบาขึ้นเยอะ ถ้าทำงานเหนื่อยๆหรือเมื่อยล้า คิดว่า LILAIA น่าจะทำให้รู้สึกเย็นตัว เย็นใจขึ้นได้ครับ ถือเป็นข้อดีของน้ำหอมแนวกลิ่น Aromatic แบบนี้ล่ะ

               * สังเกตว่า เราไม่ได้พูดถึงโน้ตของ Mastic Absolute เลย ทั้งๆที่น่าจะเป็นกลิ่นเด่นเพราะเป็นส่วนผสมชนิดเรซิ่นเหมือน Galbanum ต้องขออภัยและสารภาพตามตรงว่า ส่วนตัวยังไม่เคยสัมผัสหรือรับรู้กับกลิ่นธรรมชาติของเจ้ายางไม้ชนิดนี้มาก่อนเลย ก็เลยไม่ทราบว่ากลิ่นมันเป็นยังไง ขออนุญาตไม่พูดถึงดีกว่านะครับ พูดไปก็กลัวว่าเดี๋ยวจะผิดพลาดเอา =..=

               หลังจากผ่านพ้นช่วงกลางไปแล้ว กลิ่นจะเริ่มลดระดับความแรงลงอย่างรวดเร็วมาก แม้ตอนเทสกลิ่นจะสเปรย์จนผิวและกระดาษเปียกชุ่มไปด้วยน้ำหอม แต่สุดท้ายกลิ่นที่หลงเหลืออยู่หลังจากผ่านไปได้เพียง 1 ชั่วโมงเศษคือ กลิ่นเขียวๆที่ติดผิวในช่วงท้าย ไร้ซึ่งการกระจายใดๆเกิดขึ้น และติดไม่ทนเอาซะเลยแม้จะอัดหัวน้ำหอมมาให้ถึงระดับ Eau de Parfum ก็ตาม บนผิวเราอยู่ได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน) ใครที่หวังจะเอาไว้ฉีดให้กลิ่นฟุ้งๆเด่นๆ คงต้องบอกลากันไปก่อน เพราะ LILAIA อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ซักเท่าไหร่

               LILAIA เป็นน้ำหอมสำหรับผู้หญิงนะครับ แต่โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นกลิ่น Unisex แบบ 100% แถมยังเอนเอียงเข้าหาทางน้ำหอมผู้ชายมากกว่าผู้หญิงด้วยสิ คงเป็นเพราะกลิ่นมันมีความเขียวดิบๆปนขมอ่อนๆด้วยละมั้ง เลยทำให้เวลาดมกลิ่นนี้ทีไรมักจะจินตนาการถึงภาพของผู้ชายเสมอ นอกจากจะเป็น Unisex แล้ว ยังเป็นกลิ่น safe scent ที่สะอาด ปลอดภัย สุขุมนุ่มนวลกับทุกๆคนด้วย ถ้าใครกำลังมองหาน้ำหอมกลิ่นเบาๆแต่หรูหรา มีชั้นเชิง ลึกลับ และสู้ไหวกับราคาที่ค่อนข้างเจ็บเลือดซิบ ก็แนะนำให้ลองครับ เหมาะสำหรับอากาศในยามฤดูร้อน ยามกลางวัน แต่ส่วนตัวคิดว่าเป็นกลิ่นที่ฉีดดมก่อนนอนแล้วน่าจะหลับสบายดีทีเดียวล่ะ

_______________________________________