วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

[::REVIEW::] Dior – HYPNOTIC POISON


[::REVIEW::]
Dior – HYPNOTIC POISON
Perfumer : François Demachy
Launched Year : 2011


Fragrance Notes
Top Notes : Almond
Middle Notes : Sambac Jasmine
Base Notes : Vanilla

______________________________________________


               สำหรับ HYPNOTIC POISON สูตรที่รีวิวนี้พูดถึงคือเวอร์ชั่นล่าสุดที่ปรับสูตรโดย François Demachy ในปี 2011 ซึ่งเป็นสูตรปัจจุบันที่กำลังวางขายอยู่ในเค้าน์เตอร์ตอนนี้ครับ ความแตกต่างระหว่างสูตรนี้กับสูตร original ปี 1998 เป็นยังไง แตกต่างกันมากขนาดไหน อันนี้ก็บอกไม่ได้นะ เพราะส่วนตัวยังไม่เคยลองสูตรเก่ามาก่อน แต่พี่ที่รู้จักท่านหนึ่งรีวิวให้ฟังคร่าวๆว่า ทั้งสองเวอร์ชั่นกลิ่นแตกต่างกันในระดับหนึ่งเลยล่ะครับ เนื้อกลิ่นของสูตรใหม่ค่อนข้างที่จะแบนราบเมื่อเทียบกับสูตรดั้งเดิม ที่มีมิติและมีความซับซ้อนสูงกว่า ไว้ถ้ามีโอกาสดีๆ บุญส่ง และทรัพย์เอื้ออำนวย จะไปหามาลองแล้วมาเล่าให้ฟังนะ ^^’

               HYPNOTIC POISON เป็นน้ำหอมแนว Oriental - Vanilla ครับ เด่นด้วยกลิ่นวานิลลาที่ให้ความหวานสไตล์ creamy นุ่มๆ และออกโทน Gourmand ที่คล้ายกลิ่นขนมชัดเจน ผสานกับกลิ่นนวลๆมันๆของถั่วอัลมอนด์ และแซมด้วยดอกมะลิอียิปต์อีกนิดหน่อย ซึ่งโน้ตหลักอย่างเป็นทางการของมันมีอยู่แค่ 3 อย่างนี้ครับ ทุกอย่างผสมผสานกันออกมาแล้วให้กลิ่นโทนขนมหวานที่มีส่วนผสมหลักเป็นครีมรสวานิลลา อารมณ์ประมาณ เค้กอัลมอนด์ คุ้กกี้วานิลลา เป็นต้น

               เห็นกลิ่นน่ารักน่ากินแบบนี้อย่าคิดว่ามันจะมาแนวเดียวกับ fantasy หรือน้ำหอมกลิ่นขนมอื่นๆในท้องนะครับ เพราะจริงๆแล้วมันกลับเต็มแน่นไปด้วยความเซ็กซี่เร่าร้อนแบบดุเดือดเลือดคั่ง ดูจากสีขวดก็น่าจะพอบอกได้ในระดับหนึ่งว่ามันติดเรทอย่างไม่ต้องสงสัย ก็เพราะมันเซ็กซี่ร้อนรุ่มในเฉดสีแดงอย่างนั้นจริงๆ ใส่กลิ่นนี้อยู่กับคนรักสองต่อสองไม่น่าจะรอดครับบอกเลย เพราะกลิ่นมันให้อารมณ์ยั่วยวนชวนคลุกวงในจริงๆ ชายหนุ่มคนไหนต้านทานไหวก็เก่งเกินไปแล้วมั้ง 555 ออร่าความเซ็กซี่ของมันเทียบได้กับ Dior Addict รุ่น EDP เลยล่ะ คงจะรู้กิตติมศักดิ์กันดีนะ ว่า Addict มันเซ็กซี่บาดใจขนาดไหน HYPNOTIC POISON ก็มาในทำนองเดียวกันครับ

               ทันทีที่ปลายจมูกสัมผัสกับกลิ่นเปิด บอกได้เลยว่าเข้มข้น เต็มแน่น และหนักหน่วงแบบสาหัสสากรรจ์มากครับ เตือนไว้ ณ ตรงนี้เลยว่าใครที่ไม่ไหวกับน้ำหอมที่มีเนื้อกลิ่นแรงจัดๆ แนะนำให้เลี่ยงโดยด่วน เพราะความแรงของมันทำได้ดีมากในระดับที่สูสีกับ Poison ขวดม่วงได้สบายๆ จับกลิ่นวานิลลาได้เป็นอันดับแรกครับ เป็นกลิ่นวานิลลาแซมด้วยอัลมอนด์ที่หวานนุ่มนวล และออกโทน creamy ชัดเจน แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่แปลก ก็คือ หลายคนที่ได้ลองกลิ่นนี้บอกว่าไม่ได้กลิ่นวานิลลาเลยแม้แต่น้อย กลับได้กลิ่น Root Beer แทน อันนี้ลองกันเองนะว่าได้กลิ่นแบบไหนกัน แต่ส่วนตัวเราได้กลิ่นวานิลลาชัดมาก แต่ไม่รู้สึกถึง Root Beer เลยซักนิด

               ช่วงกลาง ตามข้อมูลแจ้งว่ามี Sambac Jasmineหรือดอกมะลิอียิปต์เป็นส่วนผสม ดมดูก็จับกลิ่นได้นะครับ ทำหน้าที่มอบความ feminine เคล้าคลอไปกับกลิ่นวานิลลาที่หวานนุ่มนวลไม่มีเปลี่ยน และเซ็กซี่แบบไม่มีลดละเลยจริงๆ ความเซ็กซี่ของมันนั้นออกทางอบอุ่น ไปจนถึงเร่าร้อนเหมือนไฟเลยครับ แต่จะไม่ใช่แนวเดียวกับ Gucci Rush นะ เพราะอันนั้นออกแนวสวยเซ็กซี่แบบร้ายๆ เล่ห์เหลี่ยมเยอะ ดูเป็น Bad Girl แบบซาตานสาวกับชุดคอร์เซ็ทสีดำขลับ ส่วน Hynotic จะออกแนวเซ็กซี่เหมือนสาวเปลือยกายอยู่ในห้องที่มีไฟสีแดง บรรยากาศร้อนอบอ้าว และความร้อนของร่างกายก็กระตุ้นให้เหงื่อไหลตลอดเวลา

               ช่วง Base Notes เป็นช่วงฉายเดี่ยวของวานิลลาครับ ให้กลิ่นวานิลลาที่ติด smoky นิดหน่อย และส่วนตัวยังคงจับกลิ่นอัลมอนด์ได้อยู่นะ แต่ก็แค่อ่อนๆครับ ไม่ได้โดดเด่นเกินกว่าวานิลลา อายุกลิ่นตั้งแต่ต้นจนจบนั้นทำได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ เพราะเป็นน้ำหอมเบส Eau de Toilette แต่ติดทนได้นานมากกกกกกกก  บอกไม่ได้ว่าติดทนนานแค่ไหนเพราะไม่เคยใช้จนปล่อยให้กลิ่นเลือนหายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ฉีดกี่ครั้งๆก็ต้องอาบน้ำก่อนเสมอ นานสุดที่เคยใช้ก็น่าจะราวๆ 15 ชั่วโมง โดยที่กลิ่นยังคงกระจายไม่มีหยุด และการกระจายก็แรงดีมากอีกเช่นกัน จนบางครั้งรู้สึกว่า sillage มันแรงเกินไปหรือเปล่า กลิ่นพุ่งลอยเด่นมาก ถ้าใครรับไม่ไหวลองดู flanker อย่างรุ่น Eau Secrète ดูก็ดีครับ กลิ่นวานิลลาเบาลงเยอะ แถมยังมีกลิ่นส้มเข้ามาเพิ่มความสดชื่นขึ้นอีกด้วย

               กลิ่นหนักหน่วงแน่นปึ๊กขนาดนี้ แน่นอนว่าช่วงเดียวที่ใช้ได้คือช่วงฤดูหนาวครับ จริงๆฤดูหนาวของไทยก็อาจจะยังใช้ยากไปด้วยซ้ำ เพราะดูจากความแรงจัดจ้านของมันน่าจะเหมาะกับโซนยุโรปที่มีหิมะตกหนักๆเลยซะมากกว่า แต่ถ้าใครอยู่ในห้องแอร์ฉ่ำๆก็ใช้ได้ไม่มีปัญหาครับ โดยเหมาะกับยามค่ำคืนมากที่สุดเพราะกลิ่นเซ็กซี่แบบมีพลังแรงมากจริงๆ ถ้าใส่เที่ยวผับเที่ยวบาร์เหมาะมาก เตือนอีกครั้ง กลิ่นแรงมากครับ โปรดสเปรย์อย่างเบามือ เพราะคนรอบข้างอาจจะเวียนหัวได้

______________________________________________