[::REVIEW::]
DONNA KARAN – DKNY BE DELICIOUS
Perfumer : Maurice Roucel
Launched Year : 2004
Fragrance Notes
Top Notes : Grapefruit, Cucumber, Magnolia
Heart Notes : Apple, Lily-of-the-valley, Rose, Tuberose,
Violet
Base Notes : Woods, White amber
_____________________________________________
คิดว่าคงไม่น่าจะมีใครที่ไม่รู้จักหรือไม่เคยได้กลิ่นแอ๊บเปิ้ลเขียวอันแสนโด่งดังตัวนี้แล้วนะครับ
เพราะมันเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มน้ำหอมสามัญประจำบ้านยอดนิยมของสาวไทยที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็ต้องได้กลิ่นนี้ลอยมาอยู่เป็นประจำ
กลิ่นนี้คือตัวบุกเบิกของไลน์ BE DELICIOUS ที่แม้จะพึ่งออกปี
2004 แต่ปัจจุบันมี flanker รุ่นลูกรุ่นหลานคลอดออกมาแล้วมากถึง 60 กว่ารุ่น
นั่งนับมาตะกี๊ก็อึ้งเหมือนกันครับ เพราะเมื่อก่อนก็เคยเห็นออก collection รวดเดียว 3-4
กลิ่น แถมบางทีก็ออกถี่ๆซ้อนๆกันประจำ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะมี flanker มากถึงขนาดนี้
ทั้งหมดนี้ก็เพราะความเข้าถึงง่ายกับมหาชนของมันที่ทำให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
จนผุดรุ่นลูกรุ่นหลานออกมาก็ยังขายได้นั่นเอง
บอกก่อนนะครับว่ารีวิวนี้ค่อนข้างสับแหลก ต้องขออภัยล่วงหน้ากับแฟนคลับแอ๊บเปิ้ลเขียวทุกๆคน
คือ.. สารภาพตามตรงว่าเจ้าแอ๊บเปิ้ลเขียวกลิ่นนี้จัดได้ว่าเป็นน้ำหอมกลิ่นนึงที่เราเกลียดมากที่สุด
ถ้าหากจัดโพล 1 ใน 10 ของน้ำหอมที่เกลียดที่สุดตลอดกาล แอ๊บเปิ้ลเขียวก็ติดโพลแน่ๆครับ
เหตุผลที่เกลียดเลยก็เป็นเพราะความ synthetic
ที่สดชื่นแบบเวียนหัวของมันนี่แหละที่ทำให้รู้สึกเอียนและเลี่ยนซะจนอยากเบือนหน้าหนี
ซึ่งโดยส่วนตัวนอกจากจะไม่ชอบกลิ่นของมันแล้ว ยังได้กลิ่นบ่อยมากๆอีกด้วยเลยยิ่งทำให้ไม่ชอบเข้าไปใหญ่
แต่ไลน์นี้ตัวที่ชอบก็มีนะครับ เช่น แอ๊บเปิ้ลชมพู fresh blossom ที่ฮิตติดตลาดเหมือนกัน
แต่หอมสบายกว่ามาก
BE DELICIOUS เป็นน้ำหอมแนว Floral – Fruity ที่มี
Key Note คือผลแอ๊บเปิ้ลสีเขียว ให้กลิ่นผลไม้ที่สดชื่น สดใส แต่ในความรู้สึกส่วนตัว
คิดว่ามันดูไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเท่าไหร่ครับ กลิ่น Synthetic ชัดมากเกินไป
ซึ่งตัวการของความแปลกปลอมแบบสารสังเคราะห์นี่ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่มันมาจากแตงกวาที่เป็นโน้ตรอง
ส่งกลิ่นแนว Aquatic ที่สังเคราะห์มากกกกก จนบางครั้งรู้สึกเหมือนดมสเปรย์ฉีดรถหรือสเปรย์ดับกลิ่นห้องจำพวกกลิ่น
Fresh Air กระป๋องฟ้าๆ หากทว่าความน่ารักของมันก็ยังมีซุกซ่อนอยู่ โดย Magnolia
ที่เมื่อผสานตัวเข้ากับแอ๊บเปิ้ลแล้วให้กลิ่นคล้ายเกสรดอกไม้
ที่ยังพอมีความอ่อนหวาน อ่อนโยน สไตล์ผู้หญิงแทรกขึ้นมาบ้าง
BE DELICIOUS เป็นน้ำหอมที่สื่อถึงภาพความทันสมัยของหญิงสาวยุคใหม่
(ซึ่งอันที่จริงก็คือยุคนี้นั่นแหละ) เป็นน้ำหอม everyday use ที่ ไม่รู้วันนี้จะฉีดน้ำหอมกลิ่นอะไรก็หยิบแอ๊บเปิ้ลเขียวมาใส่ได้แบบไม่ต้องคิดมาก
ซึ่งมันเหมาะมากที่สุดกับการแต่งตัวธรรมดาๆใช้ชีวิตในเมือง ซึ่งไม่เน้นหรูหราหรือเป็นทางการอะไรเท่าไหร่
(แต่ก็ไม่ได้ชิวจนถึงขั้นแต่งตัวแบบไปชายทะเล) แค่สวมเสื้อยืดสบายๆกับกางเกงยีนส์กระฉับกระเฉงก็น่าจะพอแล้วครับ
โดยส่วนตัวอยากจัดให้กลิ่นนี้เป็น 1 ในกลุ่มน้ำหอมคลาสสิคของยุค 2000 เลยด้วยซ้ำ
เพราะมันเป็นอีกกลิ่นหนึ่งที่เบสิคแบบสุดๆของยุคนี้เลย และในอนาคตอีกซัก 10 ปี ถ้าได้กลิ่นนี้ลอยมาอีกก็คงจะนึกถึงบรรยากาศในวัยเด็กของเราเอง
เพราะได้กลิ่นนี้ตั้งแต่ยังเรียนชั้นประถมอยู่เลยครับ ^^
Top Notes เปิดมาพบกับความสดชื่นก่อนเป็นอันดับแรก
แต่เป็นกลิ่นสดชื่นที่เนื้อกลิ่นหนักแน่นมากกกกก แถมยังหวานมากๆอีกด้วย หากใครที่สเปรย์หนักมือไปนี่มีโอกาสเวียนหัวได้ตั้งแต่วินาทีนี้เลยครับ
เริ่มต้นด้วยกลิ่นสดชื่น Citrus ของผล Grapefruit เปิดนำทางมาก่อน
ตามด้วยแอ๊บเปิ้ลเขียวที่เคล้ากับกลิ่น Aquatic ฉ่ำๆและชุ่มชื้นจากแตงกวา
แซมด้วยเกสรดอกไม้จากแมกโนเลีย เอาจริงๆถ้าสเปรย์แบบเบามือหน่อยก็เรียกได้ว่าไม่น่าเกลียดเลยล่ะครับ
หอมทีเดียว แต่ประเด็นมันอยู่ตรง ความ Synthetic ที่เกริ่นไปก่อนหน้านี้ที่สังเคราะห์เหลือเกิน
แต่จะว่าไปยังมีกลิ่น Aquatic ที่สังเคราะห์กว่านี้ คือ Cool Water จาก DAVIDOFF
นั่นเอง
เมื่อเทียบกันแล้วโดยส่วนตัวคิดว่า DKNY แอ๊บเปิ้ลเขียวทำออกมาได้ดีกว่า (ทางด้านกลิ่นสังเคราะห์ของโทน Aquatic)
เมื่อกลิ่นดำเนินเข้าสู่ช่วงกลาง โทน Floral
จะเริ่มเฉิดฉายมากขึ้น นำโดยดอก Magnolia ที่มอบความหวานรัญจวนปนสดชื่นใสๆ
รายล้อมด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ตามข้อมูลแจ้งว่ามี Lily-of-the-Valley, กุหลาบ, ไวโอเล็ต และดอกซ่อนกลิ่น
เคียงคู่ไปกับกลิ่นแอ๊บเปิ้ลและแตงกวาที่เป็นตัวเด่นตั้งแต่ต้นจนจบ
ให้กลิ่นอ่อนหวาน คล้ายๆเกสรดอกไม้สีขาว ถ้าใครที่ชอบกลิ่นโทน Floral ของแอ๊บเปิ้ลเขียวขวดนี้ล่ะก็
แนะนำให้ลองแอ๊บเปิ้ลชมพูเลยครับ
หอมเกสรดอกไม้เพียวๆที่อ่อนหวานและสดชื่นแบบไม่หนักจมูกเลย
เบสโน้ตแทรกขึ้นมาด้วยโทน Woody จางๆ
หากแต่ตัวเด่นจริงๆยังคงเป็นแอ๊บเปิ้ล แตงกว่า และแมกโนเลียเหมือนเดิม
เมื่อพลิกดูก้นขวด ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้ำหอมกลิ่นนี้ถึงได้หนักแน่น
ชวนเวียนหัว ทั้งๆที่เป็นกลิ่นสดชื่นก็ตาม ก็เพราะมันเป็นน้ำหอมเบส Eau de
Parfum ครับ จริงๆถ้าลดระดับลงมาเป็น Eau de Toilette คิดว่าน่าจะเบาสบายกว่านี้
อาจจะไม่มากแต่อย่างน้อยๆก็เชื่อว่ามันจะไม่หนักหรือเลี่ยนแน่นอน มาพร้อมกับการติดทนราวๆ
6 ชั่วโมงขึ้น และการกระจายที่ไม่แรงมากเท่าไหร่ อยู่ระยะรอบตัว
แต่กลิ่นทรงพลังมากจริงๆครับ แนะนำว่าอย่าพึ่งฉีดเยอะ เบาๆก่อน
พอกลิ่นเซ็ตตัวได้ที่แล้วรู้สึกเบาไปค่อยเติมใหม่ ไม่ควรฉีดหนักๆตั้งแต่แรกครับ
DONNA KARAN – DKNY BE DELICIOUS's commercial
_____________________________________________