[::REVIEW::]
YVES SAINT LAURENT – PARISIENNE L’eau
Launched Year : 2012
Fragrance Notes
Top Notes : Green notes, Rose, Violet, Vinyl accord
Heart Notes : Cranberry, Red fruits, Black currant
Base Notes : Patchouli, White musk, Cedar
_________________________________
รุ่น L’eau ฝาชมพู นับเป็น flanker ตัวล่าสุดของไลน์ ณ ขณะนี้นะครับ แถมยังเป็นรุ่นที่มีกลิ่นอ่อนบาง
ใช้ง่ายมากที่สุดของไลน์อีกด้วย โดยรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาปรับปรุงมาจาก Parisienne
EDT ที่ปรับกลิ่นดอกกุหลาบให้มีความสดชื่น
อ่อนโยน และทันสมัยมากกว่ารุ่นดั้งเดิม สำหรับรุ่นที่จะพูดถึงในรีวิวนี้ห้อยท้ายด้วยคำว่า
L’eau แน่นอนว่าต้องแตกต่าง และใช้ง่ายมากขึ้นอีกแน่นอน
อาจกล่าวได้ว่านี่รุ่น L’eau นี้คือ PARISIENNE ในเวอร์ชั่น
summer แบบที่มีทั้งความอ่อนเยาว์ ความ ไร้เดียงสา และเปี่ยมไปด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์ของจริงเลยล่ะครับ
เพราะมันสดชื่นแบบไม่มีพิษภัยความร้ายกาจหรือซุกซนปนเซ็กซี่ตามรุ่นต้นแบบเลย (EDP) แต่เนื่องด้วยความที่มันพัฒนามาจากรุ่น EDT จึงค่อยข้างจะออกแนวสดใสแบบมากๆ
รุ่นนี้ยังคงดำเนินความหอมด้วยโน้ตหลักจากดอกกุหลาบเช่นเคย
หากทว่าเป็นกุหลาบที่มีความเขียวและสดชื่น แซมด้วยกลิ่นฟรุ๊ตตี้ใสๆบางๆ ชวนนึกถึงน้ำฝนบริสุทธิ์เย็นๆในบ่อ
โรยด้วยกลีบกุหลาบสีชมพู อะไรทำนองนั้นเลยครับ
รุ่นนี้เผยกลิ่นฟรุตตี้มากขึ้นด้วยผล Cranberry
เพื่องัดความร่าเริงเยาว์วัยออกมา โดยล่องลอยไปพร้อมๆกุหลาบและยอดใบอ่อนๆของมัน ในขณะที่กลิ่นสังเคราะห์จาก Vinyl Accord ที่มอบความทันสมัยก็ยังคงมีให้จับกลิ่นได้อยู่นิดหน่อย
โดยรวมแล้ว ส่วนตัวคิดว่ากลิ่นไม่เหมือนกับรุ่น EDP ซักเท่าไหร่
แต่มีส่วนคล้ายกับรุ่น EDT มากกว่าครับ
กลิ่นเปิดสัมผัสได้ถึงความสดชื่น อ่อนหวาน
และโปร่งใส นำด้วยกลิ่นดอกกุหลาบใสๆผสมผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ทั้ง Cranberry, Blackcurrant, Red Fruit โดยมี Green Notes อันเป็นตัวแทนของใบมาเพิ่มความสดชื่นเขียวๆ
ซึ่งดูเบาสบาย ดมแล้วโล่งจมูก แต่แม้ว่ามันจะมีความสดชื่นสูงและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นเพียงใดก็ตาม
กลิ่นอายความทันสมัยเชิงสังเคราะห์ที่มีอยู่ใน Parisienne รุ่นพี่ๆก็ไม่ได้หนีห่างไปไหนเลย เนื่องจากเรายังสามารถจับกลิ่น Vinyl Accord ได้ในช่วงกลาง
ที่ให้กลิ่นโทนพลาสติกสังเคราะห์ของ Vinyl ปะปนไปกลับกลิ่น Ozonic ใสๆสว่างๆ ชวนนึกถึงหญิงสาวเปลือยร่างยืนอยู่กลางทุ่งกุหลาบในวันท้องฟ้าเปิด
มีแสงแดดอ่อนๆปะทะกับความเย็นในยามสาย และกลิ่นไอของกุหลาบที่บางสะพรั่งท้าแดดต่างล่องลอยมาตามสายลมเบาๆ
ซึ่งบางวูบก็ชวนให้จินตนาการถึงภาพสวนดอกกุหลาบริมทะเลได้อีกด้วย
โน้ตในช่วง Base ประกอบด้วย White Musk, พิมเสน และ ซีดาร์ แต่โดยส่วนตัวแล้วจับกลิ่นได้แค่มัสก์อย่างเดียวนะครับ
ส่งกลิ่น Musky จางๆไปพร้อมกับกุหลาบใสๆที่ยังคงความสดชื่นมาจนระยะสุดท้าย
PARISIENNE L’eau เป็นน้ำหอมเบส Eau de Toilette หากทว่าความทนและการกระจายกลิ่นของมันทำได้ดีไม่น้อยหน้าไปกว่ารุ่นพี่อย่าง
EDP
และ EDT เท่าไหร่เลยครับ จะมีช่วงหลังๆที่กลิ่นติดผิวไปซักหน่อยนึง
แต่ด้วยความที่กลิ่นสดชื่นแบบไม่แรงจัดจ้านอยู่แล้ว จึงหยิบมาฉีดเติมระหว่างวันได้เรื่อยๆ
เหมาะสำหรับหญิงสาวที่มีหัวใจรักน้ำหอมสีชมพูทุกๆคนครับ ใครมองหาน้ำหอมกลิ่นกุหลาบ
หรือกลิ่นผลไม้แบบเขียวๆ สดชื่นปรอดโปร่ง ให้ฟีลเหมือนกลิ่นสะอาดสะอ้านของโอโซนตามชนบทกับอากาศเย็นๆ
ลองเทสกลิ่นดูได้ ซึ่งรุ่นนี้เป็นน้ำหอมอีกกลิ่นนึงที่ใช้ง่ายในทุกสถานการณ์
และยิ่งใส่ในโอกาสสบายๆไม่เน้นทางการยิ่งดี เพราะกลิ่นไม่เน้นหรูหราหรือเซ็กซี่
แต่ออกทางเบาสบายครับ
_________________________________