วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2558

[::REVIEW::] YVES SAINT LAURENT – PARISIENNE L’eau


[::REVIEW::]
YVES SAINT LAURENT – PARISIENNE L’eau
Launched Year : 2012


Fragrance Notes
Top Notes : Green notes, Rose, Violet, Vinyl accord
Heart Notes : Cranberry, Red fruits, Black currant
Base Notes : Patchouli, White musk, Cedar

_________________________________


               รุ่น L’eau ฝาชมพู นับเป็น flanker ตัวล่าสุดของไลน์ ณ ขณะนี้นะครับ แถมยังเป็นรุ่นที่มีกลิ่นอ่อนบาง ใช้ง่ายมากที่สุดของไลน์อีกด้วย โดยรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาปรับปรุงมาจาก Parisienne EDT ที่ปรับกลิ่นดอกกุหลาบให้มีความสดชื่น อ่อนโยน และทันสมัยมากกว่ารุ่นดั้งเดิม สำหรับรุ่นที่จะพูดถึงในรีวิวนี้ห้อยท้ายด้วยคำว่า L’eau แน่นอนว่าต้องแตกต่าง และใช้ง่ายมากขึ้นอีกแน่นอน

               อาจกล่าวได้ว่านี่รุ่น L’eau นี้คือ PARISIENNE ในเวอร์ชั่น summer แบบที่มีทั้งความอ่อนเยาว์ ความ ไร้เดียงสา และเปี่ยมไปด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์ของจริงเลยล่ะครับ เพราะมันสดชื่นแบบไม่มีพิษภัยความร้ายกาจหรือซุกซนปนเซ็กซี่ตามรุ่นต้นแบบเลย (EDP) แต่เนื่องด้วยความที่มันพัฒนามาจากรุ่น EDT จึงค่อยข้างจะออกแนวสดใสแบบมากๆ รุ่นนี้ยังคงดำเนินความหอมด้วยโน้ตหลักจากดอกกุหลาบเช่นเคย หากทว่าเป็นกุหลาบที่มีความเขียวและสดชื่น แซมด้วยกลิ่นฟรุ๊ตตี้ใสๆบางๆ ชวนนึกถึงน้ำฝนบริสุทธิ์เย็นๆในบ่อ โรยด้วยกลีบกุหลาบสีชมพู อะไรทำนองนั้นเลยครับ

               รุ่นนี้เผยกลิ่นฟรุตตี้มากขึ้นด้วยผล Cranberry เพื่องัดความร่าเริงเยาว์วัยออกมา โดยล่องลอยไปพร้อมๆกุหลาบและยอดใบอ่อนๆของมัน ในขณะที่กลิ่นสังเคราะห์จาก Vinyl Accord ที่มอบความทันสมัยก็ยังคงมีให้จับกลิ่นได้อยู่นิดหน่อย โดยรวมแล้ว ส่วนตัวคิดว่ากลิ่นไม่เหมือนกับรุ่น EDP ซักเท่าไหร่ แต่มีส่วนคล้ายกับรุ่น EDT มากกว่าครับ

               กลิ่นเปิดสัมผัสได้ถึงความสดชื่น อ่อนหวาน และโปร่งใส นำด้วยกลิ่นดอกกุหลาบใสๆผสมผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ทั้ง Cranberry, Blackcurrant, Red Fruit โดยมี Green Notes อันเป็นตัวแทนของใบมาเพิ่มความสดชื่นเขียวๆ ซึ่งดูเบาสบาย ดมแล้วโล่งจมูก แต่แม้ว่ามันจะมีความสดชื่นสูงและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นเพียงใดก็ตาม กลิ่นอายความทันสมัยเชิงสังเคราะห์ที่มีอยู่ใน Parisienne รุ่นพี่ๆก็ไม่ได้หนีห่างไปไหนเลย เนื่องจากเรายังสามารถจับกลิ่น Vinyl Accord ได้ในช่วงกลาง ที่ให้กลิ่นโทนพลาสติกสังเคราะห์ของ Vinyl ปะปนไปกลับกลิ่น Ozonic ใสๆสว่าง ชวนนึกถึงหญิงสาวเปลือยร่างยืนอยู่กลางทุ่งกุหลาบในวันท้องฟ้าเปิด มีแสงแดดอ่อนๆปะทะกับความเย็นในยามสาย และกลิ่นไอของกุหลาบที่บางสะพรั่งท้าแดดต่างล่องลอยมาตามสายลมเบาๆ ซึ่งบางวูบก็ชวนให้จินตนาการถึงภาพสวนดอกกุหลาบริมทะเลได้อีกด้วย

               โน้ตในช่วง Base ประกอบด้วย White Musk, พิมเสน และ ซีดาร์ แต่โดยส่วนตัวแล้วจับกลิ่นได้แค่มัสก์อย่างเดียวนะครับ ส่งกลิ่น Musky จางๆไปพร้อมกับกุหลาบใสๆที่ยังคงความสดชื่นมาจนระยะสุดท้าย

               PARISIENNE L’eau เป็นน้ำหอมเบส Eau de Toilette หากทว่าความทนและการกระจายกลิ่นของมันทำได้ดีไม่น้อยหน้าไปกว่ารุ่นพี่อย่าง EDP และ EDT เท่าไหร่เลยครับ จะมีช่วงหลังๆที่กลิ่นติดผิวไปซักหน่อยนึง แต่ด้วยความที่กลิ่นสดชื่นแบบไม่แรงจัดจ้านอยู่แล้ว จึงหยิบมาฉีดเติมระหว่างวันได้เรื่อยๆ

               เหมาะสำหรับหญิงสาวที่มีหัวใจรักน้ำหอมสีชมพูทุกๆคนครับ ใครมองหาน้ำหอมกลิ่นกุหลาบ หรือกลิ่นผลไม้แบบเขียวๆ สดชื่นปรอดโปร่ง ให้ฟีลเหมือนกลิ่นสะอาดสะอ้านของโอโซนตามชนบทกับอากาศเย็นๆ ลองเทสกลิ่นดูได้ ซึ่งรุ่นนี้เป็นน้ำหอมอีกกลิ่นนึงที่ใช้ง่ายในทุกสถานการณ์ และยิ่งใส่ในโอกาสสบายๆไม่เน้นทางการยิ่งดี เพราะกลิ่นไม่เน้นหรูหราหรือเซ็กซี่ แต่ออกทางเบาสบายครับ

_________________________________