[::REVIEW::]
BVLGARI – Omnia GREEN JADE
Perfumer : Alberto Morillas
Launched Year : 2009
Fragrance Notes
Top Notes : Green Mandarin,
Spring Water
Middle Notes : White Peony,
Pear Blossom, Jasmine
Base Notes : Pistachio,
Blond Wood, Musk
_________________________________________
น้ำหอมตระกูล Omnia มีธีมหลักคือการนำเอาอัญมณีสีสันต่างๆมาตีความและสร้างแรงบันดาลใจในการปรุงน้ำหอม สำหรับ Omnia GREEN JADE นั้นได้แรงบันดาลใจมาจาก”หยก” อัญมณีสีเขียวนวลซึ่งเป็นหินที่ล้ำค่าเป็นอย่างมากสำหรับชาวจีน
เพราะชาวจีนถือว่าหยกเป็นเจ้าแห่งหินมีค่าทั้งมวล Omnia GREEN JADE ถูกแทนด้วยสีเขียวอ่อนในทรงขวดที่ดูล้ำแปลกตา ซึ่งให้กลิ่นสดชื่นและเขียวสมชื่อ
Omnia Green Jade เป็นน้ำหอมแนว Floral ที่มีกลิ่น Powdery ค่อนข้างโดดชัด ให้กลิ่นคล้ายแป้งในแบบเขียวๆ ซึ่งจะเป็นกลิ่นแป้งคนละโทนกับ Omnia Amethyste เนื่องจากในรุ่นนี้กลิ่นจะออกเขียวและแห้งสาบ ชวนแสบจมูกกว่ามากๆ แต่ภายใต้ความแสบจมูกนั้นเรากลับพบว่ามันซ่อนความนุ่มนวลเอาไว้ด้วย โดยส่วนตัวรู้สึกถึงกลิ่นผงแป้งเด็กที่ฟุ้งกระจายในอากาศ แล้วสูดหายใจลึกๆ พาเอาผงแป้งเข้าไปในจมูกแรงๆ แสบจมูกใช้ได้เลย น่าจะเข้าใจความรู้สึกนุ่มแต่แสบจมูกในน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นอย่างดีเลยเชียว
Omnia Green Jade เป็นน้ำหอมแนว Floral ที่มีกลิ่น Powdery ค่อนข้างโดดชัด ให้กลิ่นคล้ายแป้งในแบบเขียวๆ ซึ่งจะเป็นกลิ่นแป้งคนละโทนกับ Omnia Amethyste เนื่องจากในรุ่นนี้กลิ่นจะออกเขียวและแห้งสาบ ชวนแสบจมูกกว่ามากๆ แต่ภายใต้ความแสบจมูกนั้นเรากลับพบว่ามันซ่อนความนุ่มนวลเอาไว้ด้วย โดยส่วนตัวรู้สึกถึงกลิ่นผงแป้งเด็กที่ฟุ้งกระจายในอากาศ แล้วสูดหายใจลึกๆ พาเอาผงแป้งเข้าไปในจมูกแรงๆ แสบจมูกใช้ได้เลย น่าจะเข้าใจความรู้สึกนุ่มแต่แสบจมูกในน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นอย่างดีเลยเชียว
โน้ตหลักประกอบด้วยกลิ่นของส้ม
Mandarin, มะลิ, กลิ่นในโทน Woody จากไม้
Blond Wood, ถั่ว Pistachio และส่วนผสมสำคัญที่ทำให้กลิ่นนี้มีความเขียวสมชื่อเลยก็คือ
Green Notes ครับ
ช่วงเปิดได้รับความสดชื่นโทน
Citrus เขียวๆจากส้ม Green Mandarin กับน้ำแร่ กลิ่นส้มค่อนข้างชัด
มาแบบใสสว่าง เจือความ Aquatic นิดๆ และสะอาดสะอ้านแบบนุ่มนวล
เป็นการเปิดทางว่า โทน powdery กำลังจะคืบคลานเข้ามาในช่วงกลาง
ช่วงกลางประกอบด้วยโน้ต Soft Floral บางเบา จากดอกไม้จำพวก Pear Blossom, มะลิ และดอกโบตั๋น (Peony) เจือไปกับกลิ่นแป้งที่นุ่มละมุน อ่อนโยน และเบาสบาย (แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่สบายเท่าไหร่) sillage ตีเข้าจมูกให้ได้กลิ่นอยู่ตลอดเป็นระยะๆ แม้จะใส่ในปริมาณไม่เยอะก็ตาม
เบสโน้ตออก Woody – Green ซึ่งได้จากไม้ Blond Wood เจือกับกลิ่นแป้งเช่นดังเดิม ในช่วงนี้ยังได้กลิ่นส้ม Green Mandarin ที่สดชื่นจากช่วงแรกตีออกมาเรื่อยๆโดยแซมๆอยู่กับแป้งและไม้ blond wood นั่นเอง เบสนี้ประกอบด้วยโน้ต Pistachio (ถั่วปากอ้าชนิดหนึ่ง) เป็นหลัก แต่โดยส่วนตัวไม่ทราบเหมือนกันว่ากลิ่นมันเป็นยังไง ขอข้ามไปก่อนนะครับ
ช่วงกลางประกอบด้วยโน้ต Soft Floral บางเบา จากดอกไม้จำพวก Pear Blossom, มะลิ และดอกโบตั๋น (Peony) เจือไปกับกลิ่นแป้งที่นุ่มละมุน อ่อนโยน และเบาสบาย (แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่สบายเท่าไหร่) sillage ตีเข้าจมูกให้ได้กลิ่นอยู่ตลอดเป็นระยะๆ แม้จะใส่ในปริมาณไม่เยอะก็ตาม
เบสโน้ตออก Woody – Green ซึ่งได้จากไม้ Blond Wood เจือกับกลิ่นแป้งเช่นดังเดิม ในช่วงนี้ยังได้กลิ่นส้ม Green Mandarin ที่สดชื่นจากช่วงแรกตีออกมาเรื่อยๆโดยแซมๆอยู่กับแป้งและไม้ blond wood นั่นเอง เบสนี้ประกอบด้วยโน้ต Pistachio (ถั่วปากอ้าชนิดหนึ่ง) เป็นหลัก แต่โดยส่วนตัวไม่ทราบเหมือนกันว่ากลิ่นมันเป็นยังไง ขอข้ามไปก่อนนะครับ
Omnia GREEN JADE
เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นสดชื่นแบบนุ่มๆฟุ้งๆเหมือนกลิ่นแป้ง ซึ่งสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันเรื่อยๆตั้งแต่โอกาสสบายๆเป็นต้นไป
แต่ส่วนตัวแล้วแพ้กลิ่นนี้ครับ ขอบายยาวๆไป เรื่องแบบนี้แต่ละคนต้องลองด้วยตัวเองเพราะรีวิวนี้ก็เป็นเพียงความคิดเห็นจากการที่ได้ลองใช้มาล้วนๆ
ถ้าคุณได้ลองแล้วอาจจะหลงรักเจ้าหยกเขียวกลิ่นนี้เข้าให้ก็ได้ >< รุ่นนี้ยกเลิกการผลิตเรียบร้อยแล้วนะครับ เริ่มหายากแล้ว
ฉะนั้นใครที่กำลังตามหา ถ้าเจอก็รีบคว้าไว้นะ เพราะที่ห้างก็ไม่มีเหลือแล้วครับ
ทิ้งท้ายรีวิวด้วยประสบการณ์แย่ๆที่ไม่เคยลืมกับ Omnia GREEN JADE เพราะเคยไข้ขึ้นเพราะใส่กลิ่นนี้มาแล้วถึง
2 ครั้ง และวันนั้นที่ฉีดไปเป็นวันที่รู้สึกอึดอัดกับกลิ่นน้ำหอมมาก
จามทั้งวัน ผลปรากฏว่า ไข้ขึ้นเลยทีเดียว *-* (แต่จริงๆก็ฉีดกลิ่นนี้บ่อยเหมือนกัน
เนื่องจากสดชื่นและใช้ง่ายหากสเปรย์อย่างเบามือ)
___________________________________________
