[::REVIEW::]
Juliette Has a Gun – Miss Charming
Perfumer : Francis Kurkdjian
Launched Year : 2006
Fragrance Notes
Top Notes : Moroccan Rose
Heart Notes : Wild Berries
Base Notes : White Musk
_______________________________________________
Romano Ricci (หลานชายของ Nina Ricci) ได้หยิบเอาตัวละครสุดคลาสสิคจากละครโศกนาฏกรรมอันเป็นอมตะอย่าง “จูเลียต” มาพลิกตำนานดราม่าสู่ภาพลักษณ์ใหม่ที่โมเดิร์นขึ้นในแบบที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน ด้วยคอนเซปที่ผสมผสานระหว่างความโรแมนติกของบทละครดั้งเดิมและความเป็น Rock ‘n’ Roll เข้าด้วยกัน น้ำหอมแต่ละกลิ่นของแบรนด์ Juliette Has a Gun จึงสื่อให้เห็นถึงภาพที่แตกต่างออกไปของจูเลียต โดยเปลี่ยนจากสาวดราม่ายุค Baroque มาเป็นสาวมั่นสมัยใหม่ที่มีบุคลิกเท่ๆ สไตล์ Gothic Rock ราวกับว่าเธอจะลุกขึ้นสู้ด้วยปืนในมือของเธอเอง โดยที่ไม่ต้องนั่งร้องไห้เสียน้ำตาอีกต่อไป
Miss Charming เป็นน้ำหอมที่ทันสมัย ตามแบบฉบับน้ำหอมยุคใหม่ที่มักจะเน้นความสดชื่นและเข้าถึงง่ายเป็นหลัก (ซึ่งขัดกับคอนเซปของแบรนด์ที่ต้องการผสมผสานระหว่างความคลาสสิคและความทันสมัยเข้าด้วยกัน) โน้ต Signature ของแบรนด์คือดอกกุหลาบ อันเป็นตัวแทนที่สื่อถึงความโรแมนติกของผู้หญิง โดยกุหลาบของ Miss Charming นั้นถูกวางมาในมาดของคุณหนูผู้น่ารักและอ่อนหวาน ซึ่งถ้าหากลองหยิบนางมาเทียบกับ Lady Vengeance และ Citizen Queen แล้วล่ะก็ จะพบข้อแตกต่างที่เด่นชัดเลยคือ Miss Charming ดูเป็นน้ำหอมที่ซอฟมากๆ แตกต่างจากพวกอย่างสิ้นเชิง เนื่องจาก นางไม่ใช่ Bad Girl ผู้เปรี้ยวซ่าก๋ากั่นเหมือนอย่าง Lady Vengeance และนางก็ไม่ใช่ราชินีผู้สูงส่ง สวยสะพรึงเยี่ยงนางพญาอย่าง Citizen Queen คาแรคเตอร์ของนางจะออกแนวสาวหวานบุคลิกสดใส ซุกซนปนขี้เล่น แถมยังไร้เดียงสา ไร้ซึ่งรังสีความดุร้ายที่ซ่อนเร้นแฝงมากับความสวยเหมือนอย่างน้ำหอมรุ่นอื่นๆ แถมยังเข้าถึงได้ง่ายมากๆอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ Miss Charming จะเป็นน้ำหอมที่เข้าข่าย Masstige Market มากที่สุดของ Juliette Has a Gun (ซึ่งเป็นแบรนด์ Niche) เหมาะสำหรับสาวๆช่วงวัยรุ่นที่สุดเพราะกลิ่นสวยแบบสมวัย น่ารักแต่พองาม ไม่ดูแก่แดดแก่ลมเหมือนน้ำหอมหลายๆกลิ่น โดยสามารถใส่ได้เรื่อยๆในหลายสถานการณ์ในชีวิตประจำวันอากาศร้อนอบอ้าวก็ยังใช้ได้ไม่มีปัญหา
จัดเป็นน้ำหอม Floral – Fruity ที่เรียบง่ายมากๆ ไม่ซับซ้อนเลยซักนิด ประกอบด้วยโน้ตเพียง 3 อย่าง ได้แก่ ดอกกุหลาบ ผลเบอร์รี่ป่า และ White Musk แม้ว่าส่วนผสมจะมีไม่มาก แต่ความหอมและคุณภาพนี่ไม่เป็นรองใคร และโน้ตทุกๆตัวก็สามารถแสดงบทบาทของตัวเองได้อย่างโดดเด่นและสมดุล เนื่องจากส่วนผสมต่างๆถูกใส่มาในปริมาณเท่าๆกัน ไม่มีอะไรโดดเด่นเกินหน้าเกินตา โดยในช่วงแรกจะเป็นช่วงเวลาเฉิดฉายของดอกกุหลาบ สำหรับกุหลาบพันธุ์ที่สุคนธกรเลือกนำมาใช้เป็นส่วนผสมของ Miss Charming คือกุหลาบพันธุ์ Moroccan Rose ให้อารมณ์กุหลาบสีชมพูเบ่งบานสดใส ออกคมนิดหน่อย โดยสไตล์กลิ่นจะคล้ายๆ STELLA ของ STELLA McCARTNEY ในเวอร์ชั่นที่เติมโทน Fruity หวานอมเปรี้ยวฉ่ำๆด้วยผลเบอร์รี่ป่า ดูน่ารัก สนุกสนาน และสดชื่นดี ส่วนช่วงท้ายๆจะเริ่มเอนเอียงเข้าทาง Musky มากขึ้นโดยส่วนผสมคือ White Musk
ความทนทานบนผิว ติดทนในระดับปานกลาง ซึ่งต้องยอมแพ้ Lady Vengeance และ Citizen Queen ที่ทนข้ามภพข้ามชาติแบบไม่ติดฝุ่น ส่วนการกระจายตัวก็พอได้ ไม่รุนแรงหวือหวาเท่าไหร่นัก สาวๆที่ชอบน้ำหอมกุหลาบแนวสดใสอย่างเช่น STELLA หรือ Moroccan Rose ของ The Body Shop แนะนำให้ลอง Miss Charming ดูนะ หอมคล้ายกัน แต่ดูซุกซนกว่า ที่สำคัญคุณภาพกลิ่นถือว่าดีในระดับหนึ่ง คิดว่าไม่น่าจะทำให้ผิดหวังสำหรับคอน้ำหอมกลิ่นกุหลาบจ้า
___________________________________________
