วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[::REVIEW::] CHRISTIAN DIOR – LA COLLECTION PRIVÉE – GRIS MONTAIGNE



[::REVIEW::]
CHRISTIAN DIOR
LA COLLECTION PRIVÉE – GRIS MONTAIGNE
Perfumer : François Demachy
Launched Year : 2013
Fragrance Notes
Top Notes : Bergamot Essence Reggio Calabria
Middle Notes : Damascena Rose Absolute
Base Notes : Macedonian Moss Absolute

_______________________________________


               สีเทาเป็นสี signature ของ Dior Couture House (อาคารสำนักงานใหญ่ของ Dior ชั้นล่างเป็น flagship store ชั้นบนเป็นอาคารสำนักงาน) ที่มีที่ตั้งบนถนนมองตาญ (Montaigne), Francois Demachy สุคนธกรผู้ปรุง GRIS MONTAIGNE ขวดนี้ เขาได้นำสีเทามาตีความใหม่ในรูปของน้ำหอม โดยสื่อผ่านกลิ่นโทน Chypre อันเป็น Signature ของ Dior ตั้งแต่ยุคโบราณกลับมาตีความใหม่อีกครั้งหนึ่ง





               สำหรับเรา GRIS MONTAIGNE เปรียบเสมือนเป็นภาคต่อของ Miss Dior ในเวอร์ชั่นที่ถูกปรับให้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ไม่ใช่เพียงสาวสะพรั่งอีกต่อไป เนื่องด้วยส่วนผสมหลักที่ยึดทั้งคู่โยงเข้าหากันได้ราวพี่กับน้อง หาก Miss Dior เป็นสาวน้อยในวัยแห่งความรัก GRIS MONTAIGNE ก็คงจะเป็นสาวน้อยคนเดิมในอีก 10 ปีข้างหน้า

               จริงๆก็ไม่แน่ใจว่าคนอื่นๆที่มีโอกาสได้ใช้น้ำหอมกลิ่นนี้คิดเหมือนกันกับเราไหมว่าเจ้าน้ำหอมกลิ่นนี้มันช่างละม้ายคล้ายคลึงกับ Miss Dior ซะเหลือเกิน (เพราะอ่านรีวิวจากหลายๆแหล่ง ยังไม่เห็นใครโยงเข้าหา Miss Dior เลยซักคน) แต่โดยส่วนตัวเราได้ลองกลิ่นนี้หลายครั้งก่อนเขียนรีวิว ขอยืนยันความรู้สึกตัวเองว่าดมยังไงๆ GRIS MONTAIGNE ก็ให้ความรู้สึกถึง Miss Dior เป็นอย่างมาก เหตุผลที่คิดว่าคล้ายคงเป็นเพราะโทนกลิ่นหลักเป็นโทน Chypre ที่ได้จาก Patchouli หรือใบพิมเสนอันเป็นส่วนผสมหลักของทั้งคู่ และโทน Chypre ของ GRIS MONTAIGNE ก็ดันใกล้เคียงกับ Miss Dior เสียด้วยสิ เหมือนตัดทอนความน่ารัก ขี้เล่น อ่อนเยาว์ออกจาก Miss Dior และเข้ามาแทนที่ด้วยโทนกลิ่น Woody + Earthy อะไรทำนองนั้น

               GRIS MONTAIGNE เป็นน้ำหอมในกลุ่ม Chypre – Floral โน้ตตัวสำคัญๆประกอบไปด้วย Indonesian Patchouli หรือใบพิมเสนเทศจากอินโดนีเซีย, กุหลาบ Damascena Rose Absolute, แอมเบอร์, และมะกรูด Calabrian Bergamot จากทางตอนใต้ของอิตาลี ดูจากโน้ตโดยรวมคร่าวๆตัวนี้ดูท่าจะเอนไปทาง Midnight Poison แต่เอาเข้าจริงๆไม่ใช่ ตัวนั้นเซ็กซี่เหลือร้าย ออร่าความน่าค้นหารุนแรงเหลือเกิน ตัวนี้จะซอฟกว่าครับ ดูเข้าทาง Miss Dior ประมาณ 70% ได้

               กลิ่นเปิด Miss Dior มาเองเลย สำหรับรุ่นที่คิดว่าคล้ายที่สุดคงเป็น EDP มาแบบไม่ได้น่ารักสดใสเหมือนก่อน ความ Playful ถูกตัดทิ้งไป เผยกลิ่น Patchouli จังๆที่ถูกจับเบลนด์เข้ากับกุหลาบได้อย่างลงตัว แน่นอนว่าเนื้อกลิ่นต้องมาแบบซาบซ่า แหลมคม ทิ่มแทงจมูก ตามแบบฉบับของพิมเสน แต่มันทำให้รู้สึกถึงความหรูหรา ฟู่ฟ่า ร่ำรวย มีระดับ ซ่อนด้วยความสดชื่นของผิวมะกรูดจางๆ

               ในตอนกลาง ตัวยืนพื้นยังคงเป็น Patchouli ่กับกุหลาบเช่นเดิม ทว่าช่วงนี้กุหลาบเด่น และเคียงคู่ด้วยมะลิ Jasmine Sambac กลิ่นอาย Chypre – Floral สไตล์ Miss Dior ยังไม่จางหายไปไหน อยู่ให้สัมผัสได้ยันช่วงท้ายสุดเลยครับ หลังจากนั้น ในช่วงเบสกลิ่นจะเริ่มอบอุ่นขึ้น Woody นิดหน่อย ทั้ง Cedar และ Sandalwood ต่างมอบความ Woody ด้วยกันทั้งคู่ หากแต่มาในแบบที่บางเบามากๆ เจือจางไปกับแพทชูลี่ตัวเอก ส่วนโอ๊คมอสที่มอบความ Earthy แก่น้ำหอมก็บางเบามากเช่นเดียวกัน

               ต้องบอกว่าใครที่รัก Miss Dior ขอแนะนำให้ลองจริงๆกลิ่นนี้ แม้จะเป็นน้ำหอม Niche ที่คุณภาพสูง แต่ความเข้าถึงง่ายของมันไม่ต่างจากน้ำหอม Designer เลย ใครชอบ Miss Dior, COCO MADEMOISELLE, CHANEL CHANCE หรือน้ำหอมในกลุ่ม Chypre – Floral แบบนี้น่าจะชอบเป็นพิเศษ


_______________________________________