[::REVIEW::]
CHRISTIAN DIOR
LA COLLECTION PRIVÉE – BOIS D’ARGENT
Perfumer : Annick Menardo
Launched Year : 2004
Fragrance Notes
Top Notes : White yemenite frankincense
Middle Notes : Somalian myrrh, Indonesian patchouli, Florentine iris absolute
Base Notes : Amber, Woody notes, Honey, Leather, White musk
______________________________________
BOIS D’ARGENT เป็น 1 ใน 3 ของน้ำหอมที่ปรุงขึ้นมาเพื่อสรรเสริญให้กับ Hedi Slimane ดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศสผู้ดำรงค์ตำแหน่ง Creative Director แก่ Dior Homme ในช่วงปี 2000-2700 ซึ่ง BOIS D’ARGENT ถูกส่งออกมาในปี 2004 พร้อมกับน้ำหอมอีก 2 กลิ่นคือ COLOGNE BLANCHE และ EAU NOIRE สำหรับกลิ่นนี้ให้กลิ่นหอมแบบ Woody ตามชื่อ (Bois ที่หมายถึง Wood หรือไม้นั่นเอง) เคล้ากับกลิ่นแป้งหอมนุ่มละมุนของ Iris Absolute จากดอกไอริสพันธุ์พิเศษ ที่ช่วยเสริมความหวานนุ่มให้กับกลิ่นเปลือกไม้ได้เข้ากันเป็นอย่างดี
ไอริสพันธุ์ที่ใช้เป็นส่วนผสมแก่ BOIS D’ARGENT มีชื่อเรียกว่า Florentina Iris นะครับ เป็นไอริสพันธุ์พิเศษจากเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศฝรั่งเศส มีกลีบสีขาวนวลตา ต่างจากไอริสพันธุ์ทั่วๆไปที่มักจะมีสีม่วงแกมน้ำเงิน กว่าจะได้ Iris Absolute มาใช้เป็นส่วนผสมไม่ใช่ง่ายๆ เพราะเขาสกัดกลิ่นจากรากที่ถูกปล่อยไว้ให้แห้งถึง 3 ปี นำรากแห้งๆนี้มาบดจนละเอียดและเข้าสู้กระบวนการกลั่นไอน้ำจนได้ยางเหนียวที่เรียกกันว่า Iris Butter แล้วถึงจะนำไปสู้การสกัดกลั่นกรอง ถึงจะได้หัวน้ำหอม Iris Absolute ที่มีความเข้มข้นระดับสูงมาใช้เป็นส่วนผสม ซึ่งกว่าจะได้ส่วนผสมแต่ละตัวนี่ไม่ง่ายเลย ดังนั้นราคาค่าตัวหลักหมื่นเราว่าก็สมน้ำสมเนื้อแล้วล่ะ เพราะราคาแพงมันพิสูจน์ได้ด้วยคุณภาพจริงๆ กลิ่นที่ได้นั้นออกทาง powdery ตามแบบฉบับของดอกไอริส หากแต่แฝงไปด้วยกลิ่นโทนเปลือกไม้แห้งๆ ที่ช่วยเสริมโทน Woody ที่มีอยู่ใน BOIS D’ARGENT อยู่แล้วให้โดดชัดออกมา
BOIS D’ARGENT ให้กลิ่นในเชิง Chypre – Woody โดดเด่นด้วยกลิ่นของแมกไม้ที่มีระดับ เคล้าด้วยความนุ่มนวลจากไอริส ส่วนผสมรองยังประกอบไปด้วย Yemen Incense (ธูปกำยานจากเยเมน), Myrrh (ยางไม้เมอร์), อำพัน น้ำผึ้ง วานิลา และอื่นๆอีกมากมายที่ขอไม่เอ่ยถึงเนื่องจากส่วนตัวจับกลิ่นไม่ได้จริงๆ ต้องขออภัยด้วยครับ แหะๆ กลิ่นที่ได้นั้นหอมนุ่ม หวานละมุน เซ็กซี่และอ่อนโยน ชวนนึกถึงเนื้อไม้โบราณที่ตากแดดตากลมจนแห้ง ขอนไม้เก่าๆ โต๊ะหรือเก้าอี้ที่ทำจากไม้แบบยังไม่ผ่านการเคลือบเงาด้วยแล็กเกอร์ อะไรทำนองนั้น
กลิ่นเปิดพบกับความหวานเชิง Woody ตั้งแต่ต้น เคล้าไปกับกลิ่นแป้งจาก Iris Absolute จริงๆแล้วโน้ตในช่วงนี้ที่ปรากฎในชาร์ตคือ White Yemenite Frankincense หรือธูปกำยานนะครับ ล่องลอยปกคลุมให้จับกลิ่นได้พอประมาณ โดยกลิ่น Woody และไอริสแป้งๆนั้นเด่นกว่าในความรู้สึกส่วนตัว ชวนนึกถึงขอนไม้ เปลือกไม้แห้งๆตามธรรมชาติ บางมุมนึกถึงสมัยประถมที่เคยนั่งดมกลิ่นดินสอสีไม้ในคาบเรียนศิลปะ ไม่รู้ว่าคนอื่นได้กลิ่นแบบเราไหม แต่อันนี้คืออิงตามรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ 55555
ในช่วงกลางกลิ่นจะค่อยๆเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ นิ่มนวล มีความขลังมากยิ่งขึ้นเมื่อยางไม้เมอร์ (Myrrh) ก้าวเข้ามาร่วมวง และช่วยเติมเต็มกลิ่นกำยานจากตอนต้นให้มีความ Balsamic มากยิ่งขึ้น บนผิวเราได้กลิ่นกำยานกับเมอร์ชัดและโดดเด่นมากที่สุด ในขณะกลิ่นบนกระดาษนั้นโทน Woody แบบเปลือกไม้แห้งๆกลับเด่นชัดกว่า อันนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนไปครับ
เบสโน้ต เอนมาทาง Woody อย่างเต็มตัว เปลือกไม้แห้งๆถูกเจือด้วยความหวานอบอุ่นและนุ่มนวลจากวานิลากับน้ำผึ้ง กลิ่นทนทาน ติดผิวนานมาก จัดเป็นน้ำหอมที่กลิ่นติดทนมากๆกลิ่นหนึ่งที่เคยได้ลอง ติดทนแต่กลิ่นไม่แรงจนเวียนหัว พี่ดิว (สปอนเซอร์ที่ส่งน้ำหอมมาให้ลอง) ให้ข้อมูลว่า “BOIS D’ARGENT ขึ้นแท่นน้ำหอมกลิ่นที่ขายดีที่สุดของคอลเลคชั่น ยืนแถวหน้าเคียงคู่กับ AMBRE NUIT ที่ขายดีมากๆเช่นเดียวกัน” นี่น่าจะเป็นข้อการันตีถึงคุณภาพและความหอมของน้ำหอมกลิ่นนี้ได้เลยนะ อีโมติคอน grin
กลิ่นนี้ใช้ง่าย ใช้ได้หลากหลายโอกาส เนื่องด้วยกลิ่นที่ติดทนแต่กระจายในระดับที่พอดิบพอดี จึงสามารถใช้ได้ตั้งแต่โอกาสสบายๆ ใส่ทำงาน เข้าประชุม ไปจนถึงออกงานกลางคืนก็เหมาะ ใช้ได้ทั้งชายและหญิงโดยเหมาะกับวัยผู้ใหญ่มากกว่าวัยรุ่น ส่วนตัวได้ลองน้ำหอมไลน์นี้ครบทั้ง 7 กลิ่นที่พี่ดิวส่งมาให้เรียบร้อยแล้ว และบอกเลยว่าประทับใจทุกกลิ่นจริงๆ สามารถอ่านรีวิวได้ทั้งในเพจและในบล็อกเลยครับ :D
______________________________________