[::REVIEW::]
CHRISTIAN DIOR
LA COLLECTION PRIVÉE – AMBRE NUIT
Perfumer : Francois Demachy
Launched Year : 2009
Fragrance Notes
Top Notes : Bergamot Essence Reggio Calabria
Middle Notes : Damascena Rose from Turkey
Base Notes : Ambergris from New Zealand
_____________________________________
“AMBRE NUIT” น้ำหอมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบรรยากาศสไตล์ Baroque ของงานบอลรูมในช่วงศตวรรษที่ 18 ดำเนินความหอมด้วยโน้ต Ambergris ส่วนผสมอันล้ำค่าจากไขปลาวาฬ ซึ่งถือเป็นส่วนผสมอย่างหนึ่งที่มีราคาสูงสำหรับวงการเครื่องหอม โดย Francois Demachy สุคนธกรผู้ปรุงแต่งน้ำหอมกลิ่นนี้ เขาได้นำเอาไขปลาวาฬมาจับคู่ผสมผสานเข้ากับดอกกุหลาบราตรี สร้างกลิ่นอายหรูหราลึกลับสไตล์ Baroque ได้อย่างลงตัว
จะว่าไป AMBRE NUIT ประกอบด้วยโน้ตเพียงไม่กี่อย่าง ที่เด่นๆก็จะมีแค่ อำพันทอง, กุหลาบ, พิงค์เป๊ปเปอร์, พืชตระกูลซิตรัส และโน้ตแมกไม้ในเชิง Woody หากแต่กลิ่นที่ได้นั้นมีความซับซ้อนสูง มีมิติที่ลึกล้ำ และกลิ่นอันแสนเย้ายวนใจ ชวนหลงใหลยามได้กลิ่น โดยมี Ambergris เป็นตัวหลักในการเล่าเรื่องราว ทาง Dior แจ้งไว้ว่า Ambergris ที่นำมาเป็นส่วนผสมของน้ำหอมกลิ่นนี้มาจากประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเราก็ไม่รู้นะว่าอำพันทองจากนิวซีแลนด์มันต่างจากที่อื่นยังไง รู้เพียงแค่ว่าเขาบรรจงเลือกคัดสรรส่วนผสมที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลกมาใช้ในการปรุงกลิ่น เพื่อให้ได้น้ำหอมมีคุณภาพดีที่สุด สมกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ของแบรนด์ที่ถ่ายทอดออกมาผ่านทางน้ำหอมกลิ่นนี้
แรกเริ่ม พบกับ Ambergris ที่มาโทนนุ่มนวล อ่อนหวาน ราวกับถูกราดด้วยน้ำผึ้งอุ่นๆทับอีกเลเยอร์หนึ่ง มาพร้อมกับกุหลาบ Damacena Rose จากตุรกีที่มอบความรู้สึกงดงาม หรูหรา และโรแมนติก บางมุมเรามองว่ากุหลาบมีมนต์ขลังชวนค้นหา คล้ายกับกุหลาบของ OUD ISPAHAN (คิดว่าน่าจะเป็นกลิ่นธูปที่ล่องลอยปะปนแซมกับกลีบกุหลาบ) แต่จะต่างที่กุหลาบของ AMBRE NUIT ได้ความ Spicy จากพิงค์เป็ปเปอร์หนุนหลังอยู่เนืองๆ โดยปราศจากกลิ่นสดชื่นของพืชตระกูลซิตรัสตามที่เขาแจ้งไว้
หลังจากนั้น แอมเบอร์กรีตัวเด่นเริ่มฉายแววความอบอุ่นสไตล์ Oriental มากยิ่งขึ้น ความหรูหราคลาสสิคของกุหลาบค่อยๆลดทอนลงอย่างช้าๆ เหลือเพียงกุหลาบบางเบาที่ถูกแซมด้วยพิงค์เป๊ปเปอร์อย่างอ่อนบาง ยิ่งตอนท้ายๆยิ่งอบอุ่นและนุ่มนวล แอมเบอร์กรีอ่อนหวานมาก เทียบกับ AMBRE GRIS ของ BALMAIN นี่ต่างกันลิบลับ ตัวนั้นจะออกทางหรูหราดิบๆ เซ็กซี่รุนแรง ป่าเถื่อน มีความ Animalic สูง จึงทำให้กลิ่นออกแนวเซ็กซี่แรงๆแบบสัตว์ป่า ส่วนของ Dior จะอ่อนหวาน นุ่มลึก กรุ่นจมูก และกลิ่นไม่จัดว่าแรงเลย แต่ได้กลิ่นโดดเด่นชัดเจนดีนะ นุ่มนวล บางเบา แต่ชัดเจน กระจายได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ คือไม่ได้ฟุ้งเวอร์ แต่ได้กลิ่นพอดีตลอดเวลา
AMBRE NUIT มาในความเข้มข้นของหัวน้ำหอมระดับ Eau de Parfum ติดทนอย่างไม่ต้องพูดถึง เหมาะอย่างยิ่งกับการใส่เข้างานประชุมสำคัญ หรือโอกาสพิเศษที่ต้องการภูมิฐานดูดีกว่าปกติ โดยสามารถใส่ได้ทั้งชายและหญิง หากคุณกำลังมองหาน้ำหอมกลิ่นหรูหรา เซ็กซี่ที่ดูไม่ซ้ำใคร ใส่ออกงานทางการได้ งานสังคมกลางคืนก็ได้ AMBRE NUIT ตอบโจทย์ได้ดีมากๆทีเดียว
_____________________________________
