วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558

[::REVIEW::] PIERRE BALMAIN – IVOIRE


[::REVIEW::]
BALMAIN – IVOIRE
Perfumers : Michel Almairac, Jacques Flori
Launched Year : 2012

Fragrance Notes
Top Notes : Mandarin Orange, Violet leaf, Galbanum
Middle Notes : Rose, Jasmine, Iris, Ylang-Ylang
Base Notes : Vetiver, Cedar, Patchouli, Vanilla

_______________________________________


               เดิมที IVOIRE เคยถูกผลิตและออกวางขายเมื่อปี 1979 มาก่อน โดยเป็นน้ำหอมวินเทจรุ่นเก่าซึงปัจจุบันได้ยกเลิกการผลิตไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับ IVOIRE รุ่นที่รีวิวนี้เป็นรุ่นใหม่ที่ Pierre Balmain ได้นำน้ำหอมในตำนานของเขากลับมารังสรรค์กลิ่นใหม่อีกครั้งหนึ่งในปี 2012 ให้กลิ่นสไตล์ Chypre – Floral หรูหราจาก Iris, Galbanum และ Violet Leaf เป็นหลัก

               IVOIRE เป็นน้ำหอมไร้กาลเวลา จะว่าคลาสสิคก็ใช่ จะมองว่าทันสมัยก็ถูก ไม่ว่าจะใส่ในยุคสมัยไหนก็สร้างภาพลักษณ์ที่ดีงาม ช่วยยกระดับภูมิฐานแก่สตรีผู้สวมใส่ ด้วยความที่เนื้อกลิ่นนั้นหรูหราแกมคลาสสิค อาจจะเรียกได้ว่า IVOIRE เป็นน้ำหอมคลาสสิคสำหรับยุคปัจจุบันก็น่าจะได้ และโดยส่วนตัวคิดว่า น้ำหอมกลิ่นนี้จะมีชื่อเสียงโด่งดังไปอีกนานอย่างแน่นอ

               กลิ่นของ IVOIRE ค่อนข้างซับซ้อนและหรูหรา อยากให้จินตนาการถึงภาพนักธุรกิจสาววัยกลางคน สวมชุดสูทสีเบจกับกางเกงสีดำ รองเท้าส้นสูง สวมสร้อยไข่มุกหรือเครื่องประดับจากงาช้าง(IVOIRE แปลว่า งาช้าง) โดยรวมจะให้ลุคสุภาพสตรีสมัยใหม่ สไตล์ Working Women ที่เก่ง ฉลาด ปราดเปรียว มากความสามารถ และยังมีความเป็นกุลสตรีสูง

               กลิ่นนี้จัดอยู่ในกลุ่ม Chypre – Floral ก็จริง แต่เนื่องจากว่ามีไอริสเป็นโน้ตเด่นควบคู่ไปกับ Galbanum (ยางไม้ของต้นยี่หร่า) กลิ่นจึงออกทาง Powdery Green ชัดเจน หากแต่เป็นกลิ่น Powdery ที่หรูหรา คมเฉียบ และมีระดับสูงทีเดียว

               IVOIRE เปิดด้วย Iris, Galbanum และ Violet leaf โดย Iris ให้กลิ่นโทนแป้ง Powdery ฟุ้งๆ ถูกตัดด้วยความเขียวคมจาก Galbanum และ Violet leaf ซึ่งกลิ่นโดยรวมในช่วงเปิดจัดว่าเปิดได้สวยหรู มีชั้นเชิง บาดจมูกหน่อยๆ คล้ายกลิ่นแป้งฝุ่นแห้งๆ สำหรับบางคนอาจจะรู้สึกแสบจมูกบ้างเพราะความแห้งของมันซึ่งอาการนี้เราเองก็เป็น -0-

               ช่วงกลาง Iris กับ Galbanum เด่น ให้กลิ่นแป้งหรูๆ รองด้วยมะลิ กุหลาบ กระดังงา ออก Powdery เขียวๆ เซ็กซี่เชิงเย้ายวนนิดหน่อย ต่างจากช่วงแรกคือ Floral มากขึ้นเท่านั้นเอง

               เบสโน้ตเบนเข้าทาง Woody ไปกับซีดาร์ หญ้าแฝก และใบพิมเสน แซมไปพร้อมๆกับกลิ่นโทน Powdery ที่ยังหลงเหลือให้จับกลิ่นได้ ถึงช่วงนี้กลิ่นยังคงกระจายออกมาพอประมาณพอให้ได้กลิ่นอยู่ตลอด และเป็นน้ำหอมที่ติดทนทานน่าประทับใจในระดับหนึ่ง การกระจายกลิ่นก็ไม่รุนแรงมากจนเกินไป

               IVOIRE เหมาะกับการใส่ทำงาน ออกงานทางการ หรือวันที่ต้องการยกระดับภูมิฐานตัวเองให้ดูสูงสง่า มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น น้ำหอมกลิ่นค่อนข้างหรู เพราะฉะนั้นจะใส่กลิ่นนี้ควรดูกาละเทศะและการแต่งตัวซักนิด ไม่เหมาะอย่างยิ่งหากจะใส่เที่ยว เล่นกีฬา เพราะมันไม่ต่างกับการใส่ Chanel No.5 ไปจ่ายตลาด ซื้อผัก ซื้อปลา หรือนั่งกินข้าวต้มเครื่องใน ทางที่ดีแนะนำสำหรับโอกาสทางการสักนิด เช่น เข้าประชุมสำคัญ หรือพบปะแขกผู้ใหญ่ในงานธุรกิจ เป็นต้น


_______________________________________