[::REVIEW::]
Dior – J’adore L’eau COLOGNE FLORALE
Launched Year : 2009
Fragrance Notes
Citruses, Magnolia, Ylang-Ylang, Lemon, Bergamot, Neroli
________________________________________
ราวกับว่า J’adore L’eau ถูกรังสรรค์มาเพื่อเฉลิมฉลองอายุครบ 10 ปีของ J’adore รุ่นดั้งเดิมอย่างไงอย่างงั้น รุ่นนี้ออกปี 2009 แต่ ณ ปัจจุบันถูกยกเลิกการผลิตไปเรียบร้อยแล้ว จริงๆดิสคอนมาซักระยะนึงแล้วล่ะ แต่ลงรีวิวไว้ เพราะเห็นว่ายังสามารถหาซื้อได้ตามเว็บไซต์หลายๆเว็บ น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการเก็บสะสมก่อนที่จะหายากขึ้นเรื่อยๆ
สังเกตเห็นคำว่า COLOGNE FLORALE ที่ต่อท้ายชื่อกันรึเปล่า คำๆนี้ไม่ได้หมายความว่าน้ำหอมรุ่นนี้เบส Eau de Cologne นะจ๊ะ รุ่นนี้เบส Eau de Toilette ตามปกติ แต่การห้อยท้ายด้วยคำว่า COLOGNE FLORALE นั้นเป็นการขยายความของกลิ่นน้ำหอม ถ้าแปลตรงตัวเลย คำว่า Cologne นั้นก็หมายถึงกลิ่นจำพวกส้ม หรือพืชกลุ่มซิตรัสที่ให้กลิ่นสดชื่นเปรี้ยวๆ, ส่วน Florale (อ่านว่า โฟลฮาล) นั้นก็หมายถึงดอกไม้ ซึ่งเหมือนเป็นการแอบบอกนัยๆว่า น้ำหอมขวดนี้ให้กลิ่นดอกไม้ ตามแบบฉบับของ J’adore แต่ถูกแต่งแต้มสีสันโทนสดชื่นด้วยโน้ตจำพวก Citrus, ใช่แล้ววว ตัวนี้เปรียบเสมือนเป็น J’adore ในเวอร์ชั่นที่ถูกบีบมะนาวใส่เยอะๆ กลิ่นดอกไม้หรูหราที่เคล้ารวมกับซิตรัสเป็นโทนกลิ่นหลักของน้ำหอมรุ่นนี้เลย
J’adore L’eau เป็นน้ำหอมแนว Citrus – Floral ให้กลิ่นหรูหราของดอกไม้ที่ถูกโอบล้อมด้วยความสดชื่นแบบใสสว่างจากมะนาว โน้ตหลักๆมีอยู่ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ Citrus อันประกอบไปด้วยมะกรูดกับมะนาว กลุ่มที่สองคือดอกไม้ ซึ่งก็มีแมกโนเลีย กระดังงา และนีโรลี่
ทันทีที่สเปรย์น้ำหอมออกมา บรรยากาศอันแสนร้อนอบอ้าวรอบตัวคุณจะกลายเป็นสวนมะนาวอันแสนร่มรื่นที่กำลังผลิดอกแรกแย้มในยามบ่ายแก่ๆ ในแว้บแรกสัมผัสได้ถึงความสดชื่น โปร่งสบาย จากการผสมผสานระหว่างดอกไม้ที่เป็นเค้าโครงเดิมของ J’adore รวมตัวเข้ากับซิตรัสที่สดชื่นแบบเปรี้ยวแหลม
ดอกไม้ที่ว่านั้นประกอบด้วย แมกโนเลีย ทำหน้าที่เป็น Center กลางของโทน Floral, กระดังงาที่เป็นตัวแทนของความหรูหราฟู่ฟ่า อันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำหอมตระกูล J’adore, และนีโรลี่ ที่เป็นตัวแทนความเฟมินีนแทนมะลิในรุ่นดั้งเดิม ทั้งสามถูกผสมรวมร่างกับโน้ตที่ให้ความสดชื่นจัดๆอย่างมะกรูดและมะนาว ที่เข้ามาช่วยเติมชีวิตชีวาให้กับดอกไม้ กลายเป็นกลิ่น Floral กึ่ง Citrus ที่เบลนด์เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว มันทั้งสดชื่น เบาสบาย สะอาด และแฝงความหรูหราไว้จางๆ ใส่ยามเบื่อๆ อากาศร้อนๆ ช่วยเรียกความกระปรี้กระเปร่าได้ดีเชียวล่ะ ถือเป็นน้ำหอมที่ปลอดภัย ใช้ได้ตลอดปีสำหรับเมืองร้อนอย่างไทยแลนด์
J’adore L’eau ไม่มีการแบ่ง Top Notes – Middle Notes – Base Notes แต่จะนำเสนอกลิ่นออกมาแบบม้วนเดียวจบ นั่นหมายความว่า ช่วงต้นได้กลิ่นอย่างไร ช่วงสุดท้ายก่อนที่กลิ่นจะจางหายไปจากผิวก็จะเป็นกลิ่นอย่างนั้น เพียงแค่ว่ามันอ่อนลงเรื่อยๆ ซึ่งน้ำหอมรุ่นนี้กลิ่นอ่อนมาก อ่อนจริงๆ สำหรับรุ่นนี้จัดว่าติดทนนะ ไม่ได้ทนเทียบเท่ารุ่น EDP แต่ติดทนสำหรับน้ำหอมโทนกลิ่นมะนาวด้วยกัน กระจายตัวได้น้อยมาก หรือเรียกได้ว่าแทบจะไม่กระจายเลยก็ได้ ต้องดมในระยะจมูกแนบประชิดผิวถึงจะพอได้กลิ่น ซึ่งเป็นเรื่องปกติของน้ำหอมจำพวกมะนาว หากใครที่ใส่กลิ่นนี้อาจจะต้องมีเติมระหว่างบ้างอะไรบ้าง
เหมาะสำหรับสาวๆทุกวัย และโอเคอย่างมากหากใส่ออกแดด ทำกิจกรรมกลางแจ้ง อย่างที่บอกไป น้ำหอมกลิ่นนี้ยกเลิกการผลิตไปซักพักหนึ่งแล้ว ถ้าใครอยากตามเก็บตอนนี้ยังทันนะ
____________________________________