วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558

[::REVIEW::] YVES SAINT LAURENT – YSL PARIS


[::REVIEW::]
YVES SAINT LAURENT – YSL PARIS
Perfumer : Sophia Grojsman
Launched Year : 1983


Fragrance Notes
Top Notes : Violet, Bergamot
Heart Notes : May Rose, Iris
Base Notes : Sandalwood, Vetiver, Vanilla

_____________________________________________


              PARIS จัดได้ว่าเป็นน้ำหอมตัวแม่อีกกลิ่นหนึ่งที่สามารถก้าวขึ้นไปยืนบนแท่นน้ำหอมคลาสสิคระดับตำนานของ YSL ได้อย่างสมเกียรติ น้ำหอมกลิ่นนี้ออกวางขายครั้งแรกในปี 1983 ในรูปแบบความเข้มข้น Eau de Toilette และ Eau de Parfum ซึ่งรุ่นที่กำลังพูดถึงในรีวิวนี้คือ Eau de Toilette นะ สังเกตจุกบนฝาให้ดี รุ่น EDT จะต้องเป็นสีชมพูนะจ๊ะ

               PARIS โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมของดอกกุหลาบ May Rose ซึงเป็นกุหลาบพันธุ์เดียวกับที่ใช้ปรุง CHANEL N°5 ผสมผสานกับโทน Powdery คล้ายกลิ่นแป้งร่ำอบอวลจากดอก Violet ให้ภาพดอกกุหลาบสีแดงก่ำ กลีบแน่นเนื้อแมตราวกำมะหยี่ เป็นน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่โดยส่วนตัวมองว่า นี่แหละ ใช่เลย ตัวแม่ของน้ำหอมกลิ่นกุหลาบทั้งปวง มันเป็นกุหลาบที่หอมโรแมนติก เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายสไตล์วินเทจ และมีมนต์ขลังชวนหลงใหลไปกับเสน่ห์อันแสนเย้ายวน และแสดงถึงภาพลักษณ์ความงดงามของสาวปารีสเซียงยุค 80’ ได้เป็นอย่างดี ทุกครั้งที่ได้กลิ่นนี้ก็มักจะนึกถึง Marilyn Monroe ทาปากสีแดง สวมชุดเดรสสีดำเดินบนพรมแดงงานออสการ์อยู่เสมอ ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน สงสัยคงจะเป็นเพราะความเซ็กซี่ยั่วยวนแบบคลาสสิคนี่ล่ะ

               PARIS รุ่นดั้งเดิมน่าจะมีส่วนผสมมากมายหลายอย่าง แต่สูตรปัจจุบันที่ได้ลองเราจับกลิ่นหลักๆได้แค่ดอกกุหลาบ May Rose กับดอก Violet เพียงสองอย่างเท่านั้น ทันทีที่กลิ่นโชยเข้าเตะจมูก ดอกกุหลาบโทนสีแดงก่ำและกลิ่นแป้งร่ำอบอวลแน่นๆฟุ้งจะเฉิดฉายออกมาเป็นอย่างแรก และจะอยู่ให้เราได้กลิ่นอย่างนี้ไปจนช่วงสุดท้าย กลิ่นจัดว่าค่อนข้างแรงทีเดียว เนื้อกลิ่นแน่นเล็กน้อย แต่ก็ยังพอได้กลิ่นสดชื่นของกุหลาบเข้ามาตัด เลยทำให้กลิ่นดูมีความสว่างขึ้น ลดความแน่นอึดอัดลงได้บ้าง ส่วนโทน Powdery ฟุ้งๆนี่ก็แอบให้ความรู้สึกคล้ายๆกับ BVLGARI pour Femme แต่ PARIS จะเป็นเวอร์ชั่นที่เติมกุหลาบเข้าไปหนักๆ และดูเซ็กซี่แบบสวย เผ็ด ดุ สวยสังหาร สวยพิฆาต ซึ่งต่างจาก BVLGARI pour Femme ที่ให้อารมณ์ผู้หญิงเรียบร้อย สุภาพ ดูเป็นผู้ดีมีชาติตระกูล มีคลาส มีรสนิยม ฯลฯ ประมาณนั้น

               ช่วงกลางปรากฏโน้ตดอก Iris อันเป็นส่วนผสมรองที่เข้ามาเสริมบทบาท Powdery ให้แก่ Violet และเมื่อรวมกับกุหลาบจากตอนต้น PARIS จึงเปรียบเสมือนเป็นคุณแม่คนหนึ่งที่มีลูกสาววัย 20 ปีคือ BVLGARI Rose Essentielle กลิ่นทั้งคู่จะมาแนวใกล้เคียงกันเลยล่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่ากลิ่นของทั้งคู่คล้ายกันนะ แค่อยู่ในโทนกุหลาบผสมแป้งเหมือนกันเท่านั้น

               ช่วงสุดท้ายยังคงได้กลิ่นเหมือนเดิม แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากช่วงต้นเลย โดยโน้ตจริงๆของช่วงท้ายจะเป็น Sandalwood, วานิลลา และหญ้าแฝก ทว่าเราจับกลิ่นอะไรไม่ได้เลยนอกจากกุหลาบ May Rose กับ Violet เจ้าเดิมที่ยังคงกระจายให้ได้กลิ่นอยู่เป็นระยะ ติดทนนานและกระจายตัวได้ดีตามแบบฉบับน้ำหอมคลาสสิค เหมาะสำหรับผู้หญิงในวัย 40 ปีขึ้นไป ใส่ได้ในชีวิตประจำวันทั่วๆไป ซึ่งจะดีมากหากใส่ในที่อากาศเย็นซักนิด ผู้ใหญ่ที่มองหาน้ำหอมกลิ่นกุหลาบคุณภาพดี ภาพลักษณ์สวยงาม และราคาที่ไม่แพงจนเกินไป แนะนำเลย ไปลองดูได้

_______________________________________________