วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558

[::REVIEW::] BVLGARI - Eau Parfumée au thé rouge



[::REVIEW::]
BVLGARI - Eau Parfumée au thé rouge
Perfumer : Olivier Polge
Launched Year : 2006



Fragrance Notes
Top Notes : Bergamot, Orange, Pink Pepper
Middle Notes : Chinese Yunnan Tea, Fig, Roibos Red Tea
Base Notes : Resin, Musk, Walnut

_____________________________________________


               au thé rouge คือกลิ่นชาแดงนะครับ ออกมาในปี 2006 เป็นน้ำหอม Unisex เหมือนกับรุ่นอื่นๆในไลน์ทว่ากลิ่นนี้จะเอนเข้าทางน้ำหอมผู้หญิงมากกว่าผู้ชายนิดหน่อย เพราะกลิ่นออกหวาน Woody และยังเป็นรุ่นที่ออกกลิ่นชาชัดสุดในไลน์อีกด้วย ใครชอบดื่มชาแดง ชาผลไม้ร้อนๆ ใส่น้ำตาลเยอะๆ ลองอ่านรีวิวนี้ดูได้

               เช่นเดียวกับน้ำหอมกลิ่นอื่นๆ น้ำหอมขวดนี้นำทัพด้วยกลิ่นใบชา ชาที่ใช้ปรุงเป็นส่วนผสมในน้ำหอมขวดนี้คือชาแดงรอยบอส (Rooibos Tea) ซึ่งเป็นชาสกัดจากใบและกิ่งของต้น Aspalathus Linearis (มันคืออะไรก็ไม่รู้เหมือนกันครับ 55555555) เมื่อนำมาชงแล้วจะได้ชาร้อนที่มีกลิ่นหวานละมุนนุ่มนวลจากผลไม้ บ้างก็ว่ากันว่าคล้ายกลิ่นถั่ว ซึ่งน้ำหอมชาแดงขวดนี้จำลองกลิ่นและรสชาติของชาแดงรอยบอสมานะจ๊ะ คือนอกจากเด่นที่ชาแล้วยังมีถั่วและผลไม้ประกอบอยู่ด้วยนั่นเอง

               ชาแดง au thé rouge เป็นน้ำหอมแนว Woody – Green ให้กลิ่นใบชาเด่น ซ้อนด้วยผล Fig (มะเดื่อ) และถั่ว Walnut มาแบบหวานอบอุ่น นุ่มละมุน ราวกับกลิ่นไอร้อนๆของชาที่พึ่งชงเสร็จหมาดๆ กำลังระอุโชยเข้ามาเตะจมูก กลิ่นนี้ออกทางหรูปนเซ็กซี่อีกด้วย เหมาะกับสุภาพสตรีสไตล์ BVLGARI มากที่สุดครับ

               กลิ่นเปิดมาแบบนุ่มนวลมาก นำโดยใบชา ตามด้วยมะกรูด ส้ม และพิงค์เป๊ปเปอร์ จับกลิ่นได้ทุกอย่างแต่มาอย่างละนิดอย่างละหน่อย และมะกรูดไม่ออกเปรี้ยวโดดเหมือนชาเขียวนะครับ เป็นเพราะโดนกลิ่นใบชากลบซะเกือบมิดเลย อีโมติคอน tongue

               ช่วงกลางถือเป็นช่วงทองของ au thé rouge เมื่อโทน fruity หวานๆเริ่มเผยออกมา มะเดื่อเจอกับใบชา ส่งกลิ่นหวานนุ่มเชิงผลไม้และเขียวแห้งๆจากชาแดงออกมาเป็นระยะๆ

               เบสโน้ตเบนเข้าทาง Oriental Woody อบอุ่นหน่อยๆ และเริ่มหวานแน่นขึ้นมานิดๆ ช่วงนี้เด่นที่ถั่ว Walnut ที่เสริมกลิ่น nutty ให้กับใบชาและมะเดื่อ

               น้ำหอมกลิ่นชาแดงขวดนี้ติดทนดีทีเดียวแม้จะมาในเบส Eau de Cologne ก็ตาม ส่วนนึงคิดว่าน่าจะเป็นเพราะกลิ่นแน่นด้วยเลยทำให้ติดทนมากขึ้น จากที่ลองเทสกลิ่นลงบนผิว พบว่าติดทนกว่าชาเขียว แต่ยังเป็นรองชาเขียว Extrême อยู่นิดหน่อย ส่วนชาขาวคงไม่ต้องพุดถึง รายนั้นกลิ่นหายก่อนเพื่อนเลยครับ 5555

               ประสบการณ์ตรง เคยอาบกลิ่นนี้ไปอยู่ครั้งหนึ่ง คือฉีดค่อนข้างหนักมือมากเพราะตอนนั้นเข้าใจว่าเบส EDC ไม่น่าจะรุนแรงอะไรนัก แต่เปล่าเลย เพื่อนที่ยืนอยู่ห่างกันประมาณ 2 เมตรทักขึ้ันมาว่า ฉีดน้ำหอมมาหรอ ได้กลิ่นชัดมาก และผลคือวันนั้นเมาน้ำหอมตัวเองทั้งวัน 555555 แต่เพื่อนก็ชมนะว่าน้ำหอมกลิ่นนี้หอมดี จนตอนนี้เองก็ยังคงชอบอยู่ แม้จะไม่ค่อยได้มีโอกาสแว้บเข้าไปดมในห้างแล้วก็ตาม

               เป็นน้ำหอม Unisex ที่เหมาะสำหรับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายนะครับ ใครมองหาน้ำหอมกลิ่นนุ่มนวล สะอาด แต่ไม่ได้บางจ๋อย ยังคงมีชั้นเชิงความหรูหราแทรกมาอยู่ตลอด แนะนำให้ลองครับ

___________________________________________________