[::REVIEW::]
Chloé – LOVE STORY
Perfumer : Anne Flipo
Launched Year : 2014
Fragrance Notes
Top Notes : Cape Gooseberry, Neroli
Middle Notes : Stephanotis, Orange Blossom Absolute
Base Notes : Petitgrain, Cedarwood
_____________________________________________
“LOVE STORY” น้ำหอมกลิ่นใหม่ล่าสุดจาก Chloe ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่ องราวความโรแมนติกของสะพานไ ม้ใจกลางกรุงปารีสที่มีชื่อ เรียกขานกันว่า “Pont Des Arts” ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักท่องเท ี่ยวหนุ่มสาวจากทั่วทุกมุมโ ลกแวะเวียนกันมาที่สะพานไม้ แห่งนี้เพื่อนำกุญแจ Love Locks มาคล้องกันที่บริเวณริมขอบส ะพาน เป็นสัญญารักระหว่างคู่หนุ่ มสาวว่าเขาและเธอจะรักกันตล อดไป ไม่มีสิ่งใดมาพรากพวกเขาไปจ ากกันได้ Chloe ได้นำกุญแจ Love Locks นี้มาเป็นแรงบันดาลใจในการร ังสรรค์น้ำหอม LOVE STORY ผ่านแพกเกจจิ้งรูปแม่กุญแจ โดยผสมผสานรูปทรงอันเป็นเอก ลักษณ์ของน้ำหอมอันโด่งดังท ั้ง 3 รุ่นของ Chloe เข้าด้วยกัน ประกอบด้วย Chloé EAU DE PARFUM, LOVE Chloé และ See by Chloé
LOVE STORY มีกลิ่นที่เรียบง่าย สบายๆ แม้จะดูขัดกับธีมที่สุดแสนจ ะโรแมนติกไปบ้าง แต่ความเรียบง่ายนี่แหละที่ เป็นจุดสำคัญที่มัดใจสาวๆเม ืองร้อนได้อย่างไม่ยากเย็น เนื่องด้วยเนื้อกลิ่นโทน Floral ที่สดชื่น ใสสะอาดราวกับหยาดน้ำค้างบร ิสุทธิ์ในยามเช้า ได้ดมทีไรก็รับรู้ได้ถึงควา มรู้สึกดีๆ เหมือนวันที่โลกมีแต่ความสด ใส และรอยยิ้มที่จริงใจเป็นธรร มชาติ ด้วยเหตุฉะนี้ LOVE STORY จึงเป็นน้ำหอมเพียงกลิ่นเดี ยวของแบรนด์ที่สามารถตอบโจท ย์คำว่า Safe Scent ได้ดีที่สุด โดยที่รุ่นอื่นไม่อาจเทียบเ ทียมได้
ส่วนผสมหลักๆจะประกอบไปด้วย ดอกไม้สีขาวซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Neroli, Orange Blossom และ Stephanotis (ดอกมะลิจากมาดากัสการ์) ดอกไม้สีขาวนานาชนิดเหล่านี ้ถูกผสมผสานเข้าด้วยกันเป็น หนึ่งเดียว เกิดกลิ่น Floral ที่สะอาด สดชื่น และเปี่ยมไปด้วยความเฟมินีน แบบทันสมัย ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับหญิงส าวสมัยใหม่ในลุคเรียบร้อย อ่อนโยน ยิ่งหากสวมชุดสีขาวสะอาดตา แต่งหน้าอ่อนๆพองามยิ่งดูเข ้ากันเป็นพิเศษ เพราะโดยส่วนตัวมองว่าน้ำหอ มกลิ่นนี้มีเสน่ห์อยู่ที่คว ามเรียบง่าย ดูธรรมดา ไม่หวือหวาแต่โดดเด่นที่ควา มบริสุทธิ์ อันหาไม่ได้ในน้ำหอม Chloe รุ่นอื่นๆ
ในช่วงต้นพบกับดอก Neroli ที่ให้กลิ่นอายผสมผสานระหว่ างโทน Citrus และ White Floral อย่างละครึ่ง มอบความสดชื่นแบบสะอาด ขาวใส ประหนึ่งน้ำในลำธารที่ใสและ เย็น แต่แนะนำว่าไม่ควรดมที่ผิวจ ังๆ ควรดมในระยะห่างออกมาหน่อยห รือจับกลิ่นจาก Sillage ที่กระจายออกมาจะดีกว่า เพราะกลิ่นเปรี้ยวนั่นค่อนข ้างแหลมคม หากดมติดผิวเลยล่ะก็ แสบจมูกแน่นอน
ช่วงกลางยังคงดำเนินด้วยโทน White Floral เช่นเดิม Neroli ยังคงมอบความสดชื่นในแบบดอก ไม้สีขาว โดยเสริมความเต็มแน่นด้วย Orange Blossom และ Stephanotis ซึ่งเจ้าดอกไม้ชื่อประหลาดน ี้มันคือดอกมะลิของมาดากัสก าร์เขา (ส่วนตัวก็ไม่เคยได้กลิ่นหร อกนะ เอาจริงๆ) มอบความ Bright และ Sparkling แบบเข้าถึงง่ายมากๆ ชวนนึกถึงน้ำหอมสามัญประจำบ ้านอย่าง Clinique happy และ Tory Burch EDP และหากคุณต้องการ Pure Poison ในเวอร์ชั่นที่ Pure จริงๆ ไม่มี Poison ผสม ลองดู Chloe Love Story กลิ่นนี้ดูได้
ช่วงเบสโน้ตออกทาง White Floral จืดๆ ผสม Musky ใสๆ โดยโน้ตที่ปรากฏในช่วงนี้คื อ Musk กับ Petit grains (โน้ตที่สกัดจากมาจากกิ่งแล ะใบของต้นส้ม ซึ่งจะมีกลิ่นเขียวปนเปรี้ย วซิตรัสแรงๆ) ในจุดนี้ Petit Grain ทำหน้าที่เสริมความเปรี้ยวแ ละสดชื่นเชิงส้มในห้วงสุดท้ าย สานต่อจาก Neroli และ Orange Blossom นั่นเอง
LOVE STORY ไม่ได้เอาดีในเรื่องความหรู หรา เย้ายวน ชวนงานเข้า หากแต่มันมีดีทางด้านความสะ อาด อ่อนโยนและเป็นมิตรกับคนรอบ ข้าง ซึ่งก็น่าเสียดายที่ความใสส ะอาดของมันไม่ได้เข้ากับธีม กุญแจ Love Locks สุดโรแมนติกเลย (เห็นคอนเซปในตอนแรกแล้วแอบ คิดว่านี่จะต้องมาฟีลกลิ่นโ รแมนติกจ๋าซะอีก) เอาจริงๆแล้วมันสดชื่นมากๆ แถมยังใช้ง่ายมากๆอีกด้วย จะใส่ในยามอากาศร้อนก็เหมาะ ความทน ติดทนปานกลางสำหรับเบสความเ ข้มข้น Eau de Parfum กระจายตัวพอได้บ้างนิดๆหน่อ ยๆ สาวๆคนไหนชอบน้ำหอมกลิ่นสะอ าดและเฟมินีน แนะนำให้ลอง
Chloé – LOVE STORY's commercial
_________________________________________________________