[::REVIEW::]
Chloé – LOVE, Chloé EAU INTENSE
Perfumers : Louise Turner, Nathalie Gracia-Cetto
Launched Year : 2011
Fragrance Notes
Top Notes : Iris, Heliotrope
Middle Notes : Hyacinth, Wisteria, Lilac
Base Notes : Vanilla, Talcum, Musk, Peru Balsam
_____________________________________
อันที่จริง Chloé รุ่นนี้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องออกรุ่น INTENSE ออกมาแล้วนะ เพราะตัวเดิมก็กลิ่นแรง เข้มข้นเข้าขั้น INTENSE อยู่แล้ว ฉีดเพียง 1-2 สเปรย์ก็กระจายตัวฟุ้งตลบและติดทนมากๆ ถ้าหากได้กลิ่นผ่านๆเพียงผิวเผิน Flanker รุ่นนี้ก็ไม่ต่างจาก LOVE, Chloé ตัวแรกมากมายนัก ยังคงเป็นกลิ่นแป้งแน่นๆฟุ้งๆจากดอกไม้สีม่วงเช่นเคย หากทว่ามันถูกปรับโทนแป้งให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น และในขณะเดียวกันโทน Floral ก็ถูกลดบทบาทลง ดังนั้นถ้าใครที่คิดว่าตัวเดิมยังออกกลิ่น Floral มากเกินไป อยากได้กลิ่นแป้งที่ชัดเจนขึ้น ลองอ่านรีวิวรุ่น EAU INTENSE ได้เลย
หาก LOVE, Chloé รุ่นแรกให้ภาพของนักธุรกิจสาววัย 30 ปีที่มีบุคลิกมั่นๆ ว่องไว กระฉับกระเฉง ฉลาดปราดเปรียว รุ่น EAU INTENSE ก็คงจะมาในทำนองเดียวกันหากแต่เป็นหัวหน้างานวัย 35-40 ปีที่บุคลิกน่าเกรงขามขึ้นมาอีกนิด นั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวบนตึกสูงใจกลางเมือง ปล่อยผมทองดัดลอนเงางาม สวมสูทสีเทาแก่ และทั้งคู่จะให้ความรู้สึกคล้ายๆกันคือสวมกางเกงที่ดูคล่องแคล่วว่องไวและรองเท้าส้นสูง 5555
หากดูจากโน้ตของรุ่นนี้ ดูเหมือนว่าสุคนธกรต้องการที่จะเผยโทนกลิ่น Floral จากมวลหมู่ดอกไม้สีม่วงให้โดดชัดมากขึ้นเนื่องจากคัดเอาเฉพาะโน้ตดอกไม้สีม่วงมาใส่แบบเน้นๆ แต่พอได้ลองกลิ่นจริงๆแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะความ Intense ในรุ่นนี้คือโทน Powdery ล้วนๆ กลิ่นแป้งมาแบบจัดเต็มมาก กลบโทน Floral จนเหลือให้จับกลิ่นได้เพียงนิดเดียว และคงคิดว่าโน้ตข้าวจากรุ่นก่อนนั้นยังให้ความหวานได้ไม่พอ รุ่นนี้เลยถูกเปลี่ยนเป็นวานิลาซะเลย หวานกันใหญ่ล่ะงานนี้
LOVE, Chloé EAU INTENSE เป็นน้ำหอมแนว Floral – Powdery เช่นเดียวกับ LOVE ตัวแรก หากแต่มันถูกเพิ่มความเข้มข้นขึ้นมาด้วยโทน Oriental ที่ทวีคูณความหนักแน่นและฟุ้งตลบขึ้นอีกเท่าตัว ดังนั้นใครต้องการน้ำหอมกลิ่นแป้งแบบหวานจัดๆ ลองรุ่นนี้ได้เลย
Top Notes พบกับกลิ่นแป้งสไตล์ Powdery ที่เต็มแน่นและฟุ้งเฟ้อ นำด้วยกลิ่นโทนแป้งร่ำอบอวลจากดอก Iris ที่นุ่มนวล แต่ยังคงความคมเสียดจมูกได้ไม่มีตกไม่ต่างจาก LOVE รุ่นแรก
Middle Notes แม้จะมีการเพิ่มโทน Floral ด้วยดอก Hyacinth, Wisteria และ Lilac แต่เอาเข้าจริงๆแทบจะจับกลิ่นดอกไม้เหล่านี้ไม่ได้เลย เพราะโทน Powdery นั้นคืบคลานเข้ามาปลุกคลุมอย่างหนักหน่วง ดอกไม้ทั้ง 3 ของช่วงนี้โดยส่วนตัวจับกลิ่นไลแลคได้เพียงอย่างเดียวที่เป็นตัวเสริมของโทน Powdery แก่ดอก Iris
Base Notes เป็นช่วงเวลาของความหวานที่ตีขึ้นมาด้วยความมั่นใจแม้เวลาจะล่วงเลยไปกว่า 12 ชั่วโมง นางเอกหน้าใหม่อย่างวานิลาที่เข้ามารับหน้าที่ส่งต่อความหวานแทนรวงข้าวก็เฉิดฉายความหวานแบบแรงๆฟุ้งๆ ทั้งนวลแน่นและอบอุ่นไปพร้อมๆกับกลิ่นแป้งที่ส่งทอดมาตั้งแต่ต้น รั้งท้ายด้วยโทน Musky จางๆ จาก Musk เช่นเดิม
หลังจากที่ได้ลองรุ่น INTENSE จึงได้พบว่า แท้ที่จริงแล้ว คำว่า INTENSE ที่ห้อยท้ายชื่อนั้นมันไม่ได้หมายถึงความเข้มข้นด้านความติดทนหรือการกระจายตัวที่ทวีคูณเพิ่มขึ้นเลยแม้แต่น้อย เพราะรุ่นนี้ทั้งความทนและการกระจายกลิ่นมันทำได้ในระดับเท่าๆกันกับรุ่นแรก หากแต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาชัดๆเลยคืออายุของกลิ่นที่ intense มากขึ้นต่างหาก และอีกอย่างคือความหวานคมที่เพิ่มระดับขึ้นมาด้วยเช่นกัน
สำหรับเมืองอากาศร้อนอย่างเช่นเมืองไทย LOVE, Chloé รุ่นธรรมดาก็ใช้ยากเป็นทุนอยู่แล้ว รุ่นนี้จึงไม่ต้องสงสัย ใช้ยากกว่าเดิมแน่นอนเพราะโทนกลิ่น Oriental ชัดขึ้น แถมกลิ่นยังมีอายุมากขึ้นอีกด้วย เหมาะสำหรับหญิงในวัยผู้ใหญ่กลางคน ซัก 35-40 ปีขึ้นไปกำลังเหมาะ จัดเป็นน้ำหอมกลิ่นเซ็กซี่ของวัยผู้ใหญ่อะไรประมาณนั้นครับ
_______________________________________________