วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

[::REVIEW::] Chloé – Chloé EAU DE TOILETTE


[::REVIEW::]
Chloé – Chloé EAU DE TOILETTE
Perfumer : Amandine Marie, Michel Almairac, Robertet
Launched Year : 2009
Fragrance Notes
Top Notes : Mandarin Orange, Melon, Pink Pepper
Middle Notes : Freesia, Rose
Base Notes : Iris, Sandalwood, Tonka Bean

_____________________________________


               จริงๆแล้ว Chloé EDT ตัวนี้ก็ไม่ต่างจาก EDP ตัวดั้งเดิมมากเท่าไหร่นัก 80% ยังคงเป็นกลิ่นกุหลาบคล้ายๆตัวเดิม ทว่ามันถูกปรับให้บางเบาลงและสดชื่นขึ้นโดยการลดทอนความรู้สึกหรูหราลงประมาณหนึ่งและเพิ่มเข้ามาด้วยโทน airy ใสๆคล้ายอากาศที่บางเบา และโทน powdery ที่นุ่มนวลชวนนึกถึงปุยเมฆสีขาวสะอาดตา


               Chloé EDT เป็นน้ำหอมแนว Floral ที่ดำเนินกลิ่นด้วยโครงสร้างคล้ายคลึงกับตัว EDP รุ่นแม่แบบ คือ ยืนพื้นด้วยดอกกุหลาบคมๆหรูๆ ต่างที่รุ่นนี้จะคมน้อยกว่าเนื่องจากได้ไอริสเข้ามาช่วยเพิ่มโทนกลิ่น powdery ให้นุ่มนวลมากขึ้น ใครที่ใส่รุ่น EDP แล้วอึดอัด แสบจมูก หรือรำคาญกลิ่นแหลมๆทิ่มแทงจมูก ลองดูรุ่น EDT ได้ ใส่แล้วน่าจะสบายใจขึ้นในระดับหนึ่ง

               โน้ตอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับ Chloé EDT ก็เห็นจะเป็นแตงโมที่ทำหน้าที่มอบความรู้สึกสดชื่นฉ่ำๆแทนลิ้นจี่ในรุ่นเดิม แตงโมคือตัวการสำหรับโทน airy มอบความรู้สึกสดชื่นแบบสะอาด กึ่ง watery นิดๆ ซึ่งมันช่วยลดอายุของกลิ่นลงได้ประมาณหนึ่ง ทำให้รุ่นนี้ดูอ่อนเยาว์ลง

               Top Notes จับกลิ่นดอกกุหลาบได้ในทันที มาแบบคมและใสสว่าง ชวนนึกถึงกุหลาบโทนสีขาวสะอาดท่ามกลางอากาศเย็นๆโปร่งๆราวกับกุหลาบขาวที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า กลิ่นคมจากกุหลาบยังคงบาดจมูกอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ถ้าหากเทียบกับรุ่น EDP ถือว่านุ่มนวลกว่าพอสมควร สาเหตุก็น่าจะเพราะได้โทน powdery จากไอริสเข้ามาช่วยคุมโทนให้อ่อนนุ่ม ละมุนละไมมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้จับกลิ่นแตงโมได้แบบจางๆอีกด้วย ซึ่งมอบความ airy คล้ายอากาศสดชื่นยามเช้าในช่วงเปิดได้ดี

               กลิ่นแตงโมจะเริ่มเผยความ Synthetic ชัดขึ้นในช่วง Middle Notes จากแตงโมที่ให้กลิ่นหอมใสๆบางๆ กลับพุ่งทยานความ watery มากขึ้น โดยส่วนตัวคิดว่ามันแอบโยงหาโน้ตเมล่อนที่ให้กลิ่นโทน watery ใน Cool Water ได้ ต่างที่ของ Chloé เป็นกลิ่นแตงโม จะมีให้ตินิดหน่อยก็ตรงที่มีโทน Synthetic ที่ยังจับกลิ่นได้ (แต่ไม่มากเท่า Cool Water) นับว่าเป็นข้อดีที่สุคนธกรโฟกัสกลิ่นเด่นไปที่กุหลาบ ซึ่งกลบกลิ่นสังเคราะห์ของแตงโมได้มากทีเดียว โดยนอกจากกุหลาบแล้วตัวเด่นของช่วงนี้อีกอย่างคือฟรีเซียร์

               กลิ่นแบบช่วงกลางจะอยู่ยาวไล่มายัน Drydown ที่เป็นช่วงของ Sandalwood แต่โดยส่วนตัวจับกลิ่นไม่ได้ ยังคงเป็นกุหลาบสีขาวสะอาดๆ เพียงแค่กลิ่นอ่อนบางลงเรื่อยๆเท่านั้นเอง

               แม้ Chloé รุ่นนี้จะมาในเบส EAU DE TOILETTE แต่เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่มันติดทนค่อนข้างนาน และกระจายตัวได้เป็นรอง EDP เพียงแค่นิดเดียวจริงๆ ซึ่งเป็นทางเลือกแก่ลูกค้าอย่างเราๆว่าชอบแบบไหนมากกว่า ในคุณภาพที่ใกล้เคียงกัน (แต่เท่าที่ดู คนส่วนมากก็น่าจะเลือก EDP โบว์ครีมกันมากกว่า เพราะตัวเราเองก็ไม่ชอบกลิ่น EDT เท่าไหร่นัก =.,=)

               เหมาะสำหรับใส่เรื่อยๆชิวๆในวันสบายๆ นักศึกษาใส่เรียนได้ หรือจะโดดเรียนไปดูหนัง เที่ยวห้าง เดินเล่น ฯลฯ อะไรก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่เป็นโอกาสที่ไม่ซีเรียสจนเกินไป Chloé EDT ก็เหมาะสมกับทุกๆอย่างครับ

___________________________________